
ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังตลาดลดความกังวลต่อความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและยูเครนที่ลดลง
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลดราว 2% หลังตลาดลดความกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หลักจากมีการหยุดยิงในฉนวนกาซา ส่งผลให้ความเสี่ยงจากผลกระทบของสถานการณ์ความขัดแย้งที่มีต่ออุปทานน้ำมันดิบปรับลดลง
อย่างไรก็ตาม ตลาดจับตาความสัมพันธ์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดียูเครน นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี หลังล่าสุดนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ไม่พอใจต่อการจัดการเจรจาสงบศึกระหว่างสหรัฐและรัสเซีย โดยไม่ได้เชิญยูเครนเข้าร่วมการประชุม
นักวิเคราะห์คาด OPEC+ อาจเลื่อนแผนการปรับเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบต่อไป หากราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำกว่า 80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมันดิบโลก
Baker Hughes เผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ก.พ. 68 ปรับเพิ่มขึ้น 7 แท่นจากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 488 แท่น ขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับลด 2 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 99 แท่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังสิงคโปร์ส่งออกน้ำมันเบนซินประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 19 ก.พ. 68 ลดลง 74.8% แตะระดับ 0.33 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม สต๊อกน้ำมันเบนซินสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.พ. 68 ปรับลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 247.9 ล้านบาร์เรล จากระดับ 248.1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบที่ปรับลด หลังสต๊อกน้ำมันดีเซลสิงคโปร์ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.พ. 68 ปรับลด 5.49% สู่ระดับ 10 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม สิงคโปร์ส่งออกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 19 ก.พ. 68 ลดลง 7.83% แตะระดับ 0.29 ล้านตัน