
สมาคมวิทยาการพลังงาน จับมือสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี ร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้าและพลังงาน สู่ยุคโลว์คาร์บอน
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่สโมสรราชพฤกษ์ ได้จัดการแถลงข่าวและพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วย “การสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และพัฒนาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมไฟฟ้าและพลังงาน” ระหว่างสมาคมวิทยาการพลังงาน (The Association of Thailand Energy Academy) และสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) (IEEE Power and Energy Society Thailand) โดยมีคณะกรรมการและคณะที่ปรึกษาเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
นายวิลาศ เฉลยสัตย์ นายกสมาคมไฟฟ้าและพลังงานไอทริปเปิลอี (ประเทศไทย) กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการร่วมมือกันในครั้งนี้ เนื่องจากทั้ง 2 หน่วยงานมีจุดที่เหมือนกันคือ การขับเคลื่อนในเรื่องพลังงาน แต่อยู่คนละมิติ ส่วนหนึ่งของสมาคมวิทยาการพลังงาน เป็นงานนโยบาย แนวโน้มการพัฒนาพลังงานในระดับประเทศ ส่วนไอทริปเปิลอี ทำในเรื่องการส่งเสริมองค์ความรู้ นวัตกรรมด้านพลังงานต่าง ๆ
ทำให้การร่วมมือกันในครั้งนี้จะเห็นทั้งเรื่องนโยบาย แนวทางปฏิบัติ การศึกษาและการวิจัยทั้งหมด แวลูเชนของการพัฒนางานด้านพลังงานจะมีความครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น โดยยอมรับว่า ความท้าทายด้านพลังงานสะอาดในขณะนี้เป็นเรื่องความเข้าใจ เพราะมีเทรนด์ต่าง ๆ ที่เป็นแบบอย่างอยู่แล้ว ว่ามีกระบวนการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดได้อย่างไร ทั้ง 2 องค์กรจึงมีหน้าที่ในการให้ความรู้ เป็นกุญแจหลักที่จะให้แนวทางสังคมเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคโลว์คาร์บอนได้

นายวิลาศกล่าวว่า เป้าหมายในด้านพลังงานจากนี้จะมุ่งสู่การใช้พลังงานสะอาดหรือกรีนเอเนอร์จี้ ทำอย่างไรให้ประชาชนมีส่วนร่วมและเดินหน้าสู่การใช้พลังงานสะอาดได้มากขึ้น จัดทำหลักสูตรที่จะร่วมกันพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนที่มีความสนใจสามารถนำองค์ความรู้เหล่านี้มาใช้ได้ก่อน ขณะเดียวกันก็ทำเรื่องความยั่งยืนควบคู่ไปด้วย เพราะเป็นเรื่องที่มาคู่กัน ทั้งองค์ความรู้และนวัตกรรมต่าง ๆ จากการใช้พลังงานสะอาด ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากเรื่องนี้แน่นอน
โดยระยะแรกหลังจากลงนามความร่วมมือนี้ จะจัดตั้งคณะทำงานร่วมกัน เพื่อประเมินกิจกรรมที่ร่วมมือกันดำเนินการได้ทันที รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรทางการศึกษา การปฏิบัติ เชิญชวนให้อุตสาหกรรมเข้ามาดูวิธีการนำพาประเทศชาติไปสู่สังคมโลว์คาร์บอนได้อย่างไรบ้าง เท่ากับเราจะมีผู้ดูแลรับผิดชอบทั้งเรื่องนโยบายและการปฏิบัติจริงผ่านบุคลากรจากทั้ง 2 สมาคม
“แม้นโยบายใหม่ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะไม่เชื่อเรื่องโลกร้อน หรือให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมากเท่าที่ควร แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีความชัดเจนในแนวทางปฏิบัติ ซึ่งยืนยันว่าเรื่องความยั่งยืนอย่างไรประเทศไทยก็ต้องเดินหน้าต่อ เพราะเป็นความต้องการของบ้านเราด้วยที่อยากจะอยู่ในสังคมที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี แต่หากสหรัฐมีนโยบายชัดเจนในด้านใดออกมาก็ต้องประเมินและปรับเปลี่ยนแนวทางรับมือต่อไป” นายวิลาศกล่าว

ด้านนายนำชัย หล่อวัฒนตระกูล นายกสมาคมวิทยาการพลังงาน กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า สมาคมไอทริปเปิลอี มีองค์ความรู้เยอะ มีประสบการณ์ นวัตกรรม รวมถึงบุคลากรที่มีศักยภาพสูง สะท้อนผ่านการจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย จึงมองว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะสามารถเชื่อมโยงระหว่างแนวนโยบายและการปฏิบัติที่สร้างประโยชน์ต่อประเทศชาติได้อีกเยอะ เนื่องจากจะนำความรู้เหล่านี้ถ่ายทอดไปสู่ประชาชน โดยเบื้องต้นได้กำหนดกรอบเวลาความร่วมมือ 2 ปีต่อจากนี้ ซึ่งจะมีการสนับสนุนเพื่อเดินนห้าประเทศสู่การใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น
นายนำชัยกล่าวว่า จะมีการผนึกกำลังระหว่าง 2 สมาคมเพื่อเดินหน้าในเรื่องพลังงานสะอาด เริ่มต้นในเรื่องประเด็นที่เป็นความขัดแย้งทางสังคมด้านพลังงาน ซึ่งสังคมอาจไม่ได้เข้าใจเรื่องพลังงานเท่าที่ควร ในอนาคตเมื่อเกิดประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ขึ้น จะร่วมมือกันในการจัดสัมมนาเพื่อให้องค์ความรู้ ชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชน
โดยสมาคมไอทริปเปิลอี เป็นฝ่ายที่มีความรู้ทางเทคนิคด้านพลังงานสูง เมื่อมาเชื่อมกับสมาคมวิทยาการพลังงาน ก็สามารถสื่อสารข้อที่สร้างความขัดแย้งทางสังคมได้ จากความไม่เข้าใจต่าง ๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายเรื่องที่สังคมพูดกันเองในแบบที่ยังไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจมากเท่าที่ควร