ค้า ไทย-เกาหลีเหนือ 4 เดือนแรกแค่ 18 ล้านบาท

คอลัมน์ DATA

เป็นที่น่าจับตามองตลอดสัปดาห์สำหรับการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ กับ นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา การประชุมดังกล่าวนำมาสู่การลงนามในเอกสารที่จะนำไปสู่กลไกรักษาสันติภาพที่ยั่งยืนบนคาบสมุทรเกาหลี

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยผลวิเคราะห์ว่า การพบกันของสองผู้นำช่วยลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งเป็นจุดเปราะบางด้านภูมิรัฐศาสตร์โลก ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการค้าโลก ทำให้มีเสถียรภาพมากขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม ตลาดเงิน ตลาดทุน และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งส่งผลดีต่อการส่งออกของไทยในระยะยาว

ปัจจุบันการค้าโดยตรงระหว่างไทยและเกาหลีเหนือ มีมูลค่าน้อยมาก (ตาราง) มีสัดส่วนเพียง 0.0005% ของมูลค่าการค้ารวมของไทย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไทยปฏิบัติตามมติของสหประชาชาติที่ห้ามค้าขายสินค้าบางประเภทกับเกาหลีเหนือ เช่น ถ่านหิน และน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม หากเกาหลีเหนือมีการฟื้นฟูการค้ากับต่างประเทศ จะเป็นโอกาสให้ไทยขยายการส่งออกสินค้าศักยภาพของไทยที่ตลาดเกาหลีเหนือมีความต้องการ เช่น สินค้ากลุ่มอาหาร ผลไม้แปรรูป และอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและปัจจัยสี่อื่น ๆ เช่น เครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ในบ้าน กลุ่มวัตถุดิบและสินค้าที่ใช้ในภาคการผลิตและภาคก่อสร้าง เช่น ยางพาราและผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องจักรกลและส่วนประกอบของเครื่องจักรกล เป็นต้น นอกจากนี้ยังจะช่วยให้การค้าสินค้ากับจีน ในกลุ่มที่เป็นสินค้าขั้นกลาง น่าจะเป็นไปอย่างสะดวกมากขึ้น เพราะที่ผ่านมา สหรัฐมีการห้ามค้าขายกับเกาหลีเหนือผ่านประเทศที่สามอยู่บางส่วน

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สหรัฐยังไม่ได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับเกาหลีเหนือ เพราะยังต้องติดตามการปฏิบัติตามข้อตกลงของเกาหลีเหนือ ดังนั้นผู้ประกอบการไทยยังต้องติดตามสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง