ราคาน้ำมันดิบ (3 มี.ค. 68) หลังการเจรจายุติสงครามล้มเลิกกลางคัน

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังการเจรจายุติสงครามล้มเลิกกลางคัน ท่ามกลางบริษัทน้ำมันอิรักไม่ยอมส่งออกน้ำมันดิบตามแผนรัฐบาล

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับลดราว 1% หลังไร้ความคืบหน้าจากการประชุมเจรจาระหว่างสหรัฐ และยูเครน เนื่องจากประธานาธิปดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องการให้สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีมาตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จบโดยไวที่สุด ทำให้ประธานาธิปดียูเครนนายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีไม่พอใจ และออกจากการประชุมในทำเนียบขาวสหรัฐ ซึ่งนโยบายสนับสนุนยูเครนเปลี่ยนไปจากยุคสมัยของนายโจ ไบเดน ที่มีการสนับสนุนยูเครนทางอาวุธ

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 28 ก.พ. 68 อยู่ที่ 69.76 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.59 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 73.18 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.86 เหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม บริษัทผลิตน้ำมันดิบในอิรัก 8 แห่ง ปฏิเสธที่จะส่งน้ำมันดิบผ่านท่อน้ำมันตุรกี Ceyhan เนื่องจากยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในเชิงพาณิชย์ได้ แม้รัฐบาลอิรัก Baghdad จะมีการประกาศว่าจะกลับมาส่งออกน้ำมันดิบในเร็ว ๆ นี้ก็ตาม ทั้งนี้หากมีการกลับมาส่งออกผ่านท่อดังกล่าวจะทำให้อุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้นราว 0.19 ล้านบาร์เรลต่อวัน

Baker Hughes เผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ก.พ. 68 ปรับลดลง 2 แท่นจากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ระดับ 486 แท่น ขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้น 3 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 102 แท่น

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังเหตุการณ์ไฟไหม้โรงกลั่นอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 27 ก.พ.68 ไม่ส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตน้ำมันเบนซิน อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดจีนส่งออกน้ำมันเบนซินลดลง ในช่วงเดือน มี.ค. 68 หลังเริ่มเข้าสู่ช่วงปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นประจำปี

ADVERTISMENT

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการส่งออกน้ำมันดีเซลจากเอเชีย ไปยังยุโรปยังไม่คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม สต๊อกน้ำมันดีเซลสิงค์โปร์ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 26 ก.พ. 68 ปรับลด 3.4% สู่ระดับ 9.66 ล้านบาร์เรล

ADVERTISMENT