น้ำเชื่อมไทยตีกลับจากจีน เรื่องถึง สภา “หมอเปรม” อภิปราย “อัด” โยนเรื่องกันไปมา

สมาคมการค้าอุตสาหกรรมน้ำตาลแปรรูปไทย หมดหนทาง หลังจีนไม่ผ่อนผันชั่วคราวให้นำเข้าน้ำเชื่อมได้ ต้องขนน้ำเชื่อมกลับไทย สร้างความเสียหายยับเยินจนต้องเร่ขายราคาขาดทุน

ที่ รัฐสภา ได้มีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณา ความตกลงว่าด้วยกรอบข้อบังคับด้านความปลอดภัยอาหารอาเซียน ซึ่ง คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ โดย นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. อภิปรายว่า

ความปลอดภัยของอาหาร ปัจจุบันมีหน่วยงานที่สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดูแล ได้แก่ สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) เป็นหน่วยงานหลัก ส่วนในเรื่องของสุขภาพมี สำนักงานอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุขดูแล ทั้ง 2 กระทรวงนี้จะต้องทำงานร่วมกัน เพื่อให้ได้มาตรฐานสินค้าที่ปลอดภัยไปสู่ต่างประเทศ

แต่ปัญหาขณะนี้ที่เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมแล้ว จากกรณีที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้คือ น้ำตาลพรีมิกซ์ ที่เป็น “น้ำเชื่อม” ของประเทศไทย ไม่สามารถส่งไปประเทศคู่ค้าได้ โดยสมาคมอุตสาหกรรมน้ำตาลแปรรูปไทย ได้รายงานว่า สินค้าน้ำตาล ซึ่งผลิตมาจากอ้อยจะมีรูปแบบการนำส่งสินค้า 2 แบบคือ น้ำตาลทราย กับ น้ำตาลพรีมิกซ์หรือน้ำเชื่อม

“ที่ผ่านมามีการส่งสินค้าประเภทน้ำเชื่อมจากประเทศไทย ไปประเทศเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 67 แต่ไม่สามารถนำเข้าประเทศคู่ค้าได้ สินค้าต้องลอยเรืออยู่กลางทะเล จนถึงวันที่ 15 ก.พ. 68 น้ำเชื่อมดังกล่าวถูกตีกลับ ต้องนำไปขายที่ประเทศอินเดียในราคาที่ถูกกว่าประเทศคู่ค้า 50 -70%

ไม่ต้องถามว่า “คุ้มทุนหรือไม่” แต่ในขณะนี้ ผู้ส่งออกขาดทุนไปแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท เพราะถูกหน่วยงานตรวจสอบความปลอดภัยทางอาหารของประเทศคู่ค้ากีดกันนี่คือ ความสูญเสียที่เกิดขึ้น “ที่ผมพูดเพราะเกี่ยวข้องกับเกษตรกร น้ำตาลทรายหรือน้ำเชื่อมล้วนผลิตจากอ้อย ราคาอ้อยเกี่ยวพันกับเกษตรกรชาวไร่อ้อย และขณะนี้ราคาอ้อยลดต่ำลงตันละ 300 บาท จาก 1,460 บาทต่อตัน วันนี้ เหลือ 1,160 บาทต่อตัน เกษตรกรเสียหายอย่างต่ำ 200,000 รายทั่วประเทศ ปัญหานี้จะทำอย่างไร

สินค้าจากน้ำเชื่อมของประเทศไทยส่งออกไปแล้วแต่ “ลอยคอ” อยู่กลางทะเล เหตุเกิดขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2567 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2568 ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้” นพ.เปรมศักดิ์กล่าว

ปรากฏ ผู้เดือดร้อน (ผู้ผลิต/ส่งออกน้ำเชื่อม) ได้ไปร้องทุกข์ทุกหน่วยงาน ไปร้องที่ มกอช. ว่า ทำไมถึงส่งออกน้ำเชื่อมไม่ได้ ไปร้องที่กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะที่ทำการค้าระหว่างประเทศ “ก็โยนกันไปมา” จนสมาคมอุตสาหกรรมน้ำตาลแปรรูปไทย ไม่รู้จะไปพึ่งใคร ต้องไปร้องที่ทำเนียบฯ ก็มีบุคลากรของทำเนียบฯมารับเรื่องราวร้องทุกข์ มีการลงรับเลขที่หนังสือแล้ว

แต่วันนี้หนังสือไปอยู่ที่ไหน ปล่อยให้เกษตรกรและสมาคมอุตสาหกรรมน้ำตาลแปรรูปไทย ขาดทุนยับเยิน อยากถามว่า วันนี้เมื่อรัฐสภาเห็นชอบเรื่องนี้แล้ว จะแก้ปัญหานี้ได้หรือไม่ ตนขอฝากปัญหานี้ให้ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ จี้ถาม มกอช.ว่า เรื่องนี้มีสายสนกลในอย่างไร เพราะเรื่องนี้เป็นข่าวไม่ต่ำกว่า 40-50 ครั้ง แต่แก้ปัญหาไม่ได้ จนต้องไปขายน้ำเชื่อมให้อินเดียถูกกว่าเดิม 50-70%