
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ฟื้นตัวเล็กน้อย ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสงครามการค้า ขณะเดียวกัน จีนส่งสัญญาณพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่าปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ฟื้นตัวเล็กน้อย หลังสหรัฐประกาศยกเว้นภาษีนำเข้า 25% เป็นระยะเวลา 1 เดือน สำหรับสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงการค้าอเมริกาเหนือ (USMCA) อย่างไรก็ดี สหรัฐยังคงภาษีนำเข้า 10% สำหรับสินค้าพลังงานจากแคนาดา เช่น น้ำมันดิบและน้ำมันเบนซิน
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 6 มี.ค. 2568 อยู่ที่ 66.36 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.05 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 69.46 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.16 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ทางการจีนส่งสัญญาณว่าอาจมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากการเติบโตทางเศรษฐกิจไม่เป็นไปตามที่คาด โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะมุ่งไปที่การเพิ่มการบริโภคภายในประเทศและมาตรการบรรเทาผลกระทบจากสงครามการค้ากับสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบยังคงถูกกดดันหลังจากกลุ่มโอเปกพลัสประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ว่าจะปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบตั้งแต่เดือน เม.ย. 68 เป็นต้นไป โดยนับเป็นการปรับเพิ่มการผลิตเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2565
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังความต้องการน้ำมันเบนซินในอินโดนีเซียปรับตัวลดลงจากสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นในกรุงจาการ์ตา นอกจากนี้ อุปสงค์น้ำมันเบนซินในไต้หวันปรับตัวลดลง 0.2% ในเดือน ม.ค. 68 อยู่ที่ระดับ 0.14 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินภายในไต้หวันปรับตัวสูงขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานน้ำมันดีเซลในภูมิภาคมีแนวโน้มลดลงจากการที่โรงกลั่นในไต้หวันปิดซ่อมบำรุงตามแผนตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค. 68 อย่างไรก็ตาม ราคาได้รับแรงกดดันหลังไต้หวันรายงานตัวเลขความต้องการน้ำมันดีเซลในประเทศปรับลดลง 9.8% ในเดือน ม.ค. 68 อยู่ที่ระดับ 0.09 ล้านบาร์เรลต่อวัน