
ความพยายามที่จะเพิ่มอาชีพประมงทะเลเข้าระบบประกันสังคมได้ถูกสมาชิกสมาคมการประมงแสดงความไม่เห็นด้วย เนื่องจากแรงงานต่างด้าวที่ทำอาชีพนี้ได้เข้าสู่ระบบประกันสุขภาพอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สมาคมการประมงแห่งประเทศไทยจะเข้าพบนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการเพิ่มอาชีพประมงทะเลเข้าระบบประกันสังคม
สืบเนื่องมาจากสำนักงานประกันสังคมได้เปิดรับฟังความคิดเห็นกรณีขยายความคุ้มครอง ได้แก่ นายจ้างและลูกจ้างที่ไม่อยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม พระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการหรือลูกจ้างอื่นที่ไม่อยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม พ.ศ. 2560 กำหนดลูกจ้างทึ่ไม่อยู่ในบังคับตามกฎหมายว่าด้วยประกันสังคม เพื่อสร้างหลักประกันทางสังคม โดยอาชีพประมงทะเลจัดเป็น 1 ในกลุ่มอาชีพที่จะต้องเข้าสู่ระบบประกันสังคมด้วย
ทางสมาคมการประมงแห่งประเทศไทยได้จัดประชุมใหญ่สมาชิกสมาคมในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏที่ประชุมมีมติ “ไม่เห็นด้วย” กับการนำอาชีพประมงเข้าสู่ระบบประกันสังคมจากเหตุผลที่ว่า
1) แรงงานประมงที่ทำงานบนเรือมีการหมุนเข้า-ออกอยู่ตลอด มีการเคลื่อนย้ายบ่อย 2) เรือประมงไม่ได้ออกทำการประมงอย่างสม่ำเสมอ ต้องหยุดทำงานในช่วงปิดอ่าว มีมรสุม บางปีออกทำการประมงแค่ 2-9 เดือนเท่านั้น
3) ผู้ประกอบการประมง ทั้งประมงพาณิชย์-พื้นบ้านมากกว่าร้อยละ 90 เป็นบุคคลธรรมดา ไม่ใช่นิติบุคคล ไม่มีความสามารถในการจัดทำเอกสารเข้าระบบประกันสังคม
4) มีประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่องการจัดสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพและสวัสดิการภาคแรงงานประมงอยู่แล้ว โดยประกาศฉบับดังกล่าวให้ความคุ้มครองแก่แรงงานประมง ดังนั้น นายจ้างจึงมีสิทธิที่จะเลือกวิธีคุ้มครองแรงงานโดยไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ระบบประกันสังคมเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ แรงงานไทยที่ทำงานบนเรือประมงจะได้รับสิทธิในการรักษาจากหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) นอกจากนี้ ยังมีนายจ้างทำประกันกลุ่มจากบริษัทเอกชนนอกเวลาทำงานให้ด้วย ส่วนกรณีแรงงานต่างด้าว เมื่อไปขึ้นทะเบียนให้อยู่ในราชอาณาจักรอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็จะได้รับการประกันสุขภาพตามที่ กม.กำหนด รวมถึงนายจ้างได้ทำประกันกลุ่มจากบริษัทเอกชนนอกเวลาทำงานเหมือนกับแรงงานไทย
5) จากข้อเท็จจริงที่ว่า แรงงานต่างด้าวมีสถานะที่รอการส่งกลับ ไม่ได้อยู่ในประเทศไทยตลอดชีวิต แม้แต่แรงงานต่างด้าวที่มี Work Permit ก็ไม่ได้ทำงานอยู่ในประเทศไทยโดยตลอด แต่มีการเรียกเก็บค่าประกันสุขภาพอยู่แล้ว ดังนั้น หากจะเรียกเก็บเงินค่าประกันสังคมอีกก็จะ “ซ้ำซ้อน” ดังนั้นระบบส่งเงินสมทบกลับเต็มตามจำนวน จึงเป็นการสร้างภาระให้กับ นายจ้าง-ลูกจ้าง
6) ผู้ประกอบการเรือประมงมีการจ่ายเงินสมทบเข้า “กองทุนเงินทดแทน” แล้ว จะได้รับประโยชน์ทั้งแรงงานไทย-ต่างด้าว โดยมุ่งเน้นสวัสดิภาพและสวัสดิการในการทำงานเป็นหลัก
ดังนั้น อาชีพประมงทะเลจึงไม่เหมาะที่จะเข้าสู่ระบบประกันสังคม ประกอบกับเคยมีความพยายามมาก่อนหน้านี้ที่จะนำอาชีพนี้เข้าระบบประกันสังคม เพื่อขยายฐานการคุ้มครองที่กว้างขึ้นด้วย
ล่าสุดมีรายงานเข้ามาว่า สมาคมการประมงกันตังก็ได้ทำหนังสือแสดงความไม่เห็นด้วยที่จะมีการเพิ่มอาชีพประมงเข้าระบบประกันสังคม เนื่องจากแรงงานต่างด้าวที่ทำอาชีพนี้มีการขึ้นทะเบียนประกันสุขภาพตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว ถ้าทำประกันสังคมอีกก็จะเป็นการซ้ำซ้อนและเพิ่มค่าใช้จ่าย