“บีโอไอ” เตรียมไฟฟ้าสะอาดรับนักลงทุนคาด 2,000 เมกะวัตต์ไม่พอ

แพท​องธาร​ ชินวัตร​

นายกรัฐมนตรีลงทุนโครงสร้างพื้นฐานไว้รับนักลงทุนพร้อมทั้งรถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ สนามบิน ด้าน “บีโอไอ” โฟกัสดึงนักลงทุน 5 สาขา เตรียมโรดโชว์อเมริกาอาจจีบ NVIDIA ลงทุนเซมิคอนดักเตอร์ คาดดีมานด์ใช้ไฟสะอาดเกิน 2,000 เมกะวัตต์ ชงกระทรวงพลังงานเตรียมให้พร้อมทั้ง UTG-direct PPA

นางสาวแพท​องธาร​ ชินวัตร​ นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษภายในงาน “Ignite Thailand : Invest in Endless Opportunities โอกาสการลงทุนไร้ขีดจำกัดในประเทศไทย” จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่า การที่ประเทศไทยจะดึงการลงทุนใหม่เข้ามาได้ รัฐบาลไม่เพียงต้องสร้างความเชื่อมั่นแต่ต้องเตรียมความพร้อมทุกด้านไว้

ซึ่งขณะนี้รัฐเร่งลงทุนทั้งในส่วนโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่​ รถไฟสายสีม่วงและสีม่วงใต้ รถไฟความเร็วสูงภาคอีสานช่วงที่ 2 ขยายการใช้งานในพื้นที่ท่าอากาศยานทั้งในกรุงเทพฯและภูมิภาค ท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 รวมถึงโครงการแลนด์บริดจ์​ ทั้งหมดนี้จะสามารถเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวให้กับประเทศ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางทางการค้าของภูมิภาค และเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่นักลงทุนต้องให้ความสนใจ

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางของการลงทุน โดยที่จะมี GDP ปี 2568 โต 3-3.5% และจะเห็นการลงทุนจริง โดยเฉพาะเป้าหมายการดึงการลงทุนจากกลุ่มอุตสาหกรรม BCG, ยานยนต์ แบตเตอรี่, อิเล็กทรอนิกส์ เซมิคอนดักเตอร์ และดิจิทัล โดยจะให้สิทธิประโยชน์แบบเป็นคลัสเตอร์

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า 5 สาขาที่บีโอไอเน้นและต้องการดึงดูดเข้ามาลงทุน คือ EV เซมิคอนดักเตอร์ BCG ดิจิทัล และกิจการศูนย์กลางธุรกิจระหว่างประเทศ (International Business Center: IBC) ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการต่อยอดจากอุตสาหกรรมเดิมที่ประเทศไทยแข็งอยู่แล้ว และต้องยอมรับว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้มีคุณภาพสูงที่จะสร้างงาน ใช้วัตถุดิบในประเทศ และสร้างมูลค่าการส่งออกได้อย่างมาก

ADVERTISMENT

ขณะที่ปัจจัยสนับสนุนการลงทุนดังกล่าวแน่นอนว่าคือเรื่องของคน พลังงานสะอาด โครงสร้างพื้นฐาน ซัพพลายเชน และการอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจ (ease of doing business)

“ตอนนี้ความต้องการใช้ไฟสะอาดสูงมาก แค่ดาต้าเซ็นเตอร์กลุ่มเดียวก็สูงแล้ว คาดว่าถ้านักลงทุนมาตามเป้า ความต้องการใช้ไฟสะอาดน่าจะเกิน 2,000 เมกะวัตต์ ซึ่งทางกระทรวงพลังงานได้ประกาศอัตราค่าไฟฟ้าสีเขียว Utility Green Tariff (UGT) เฟสแรกแล้ว 4.21 บาท ในเฟส 2 จะประกาศเดือนมิถุนายน 2568 จากนั้นในช่วงเดือนตุลาคม จะประกาศหลักเกณฑ์และราคาของ direct PPA และอาจขยายอุตสาหกรรมที่ต้องการใช้ไฟสะอาดเพิ่ม และในเดือนเมษายนเตรียมเดินทางไปโรดโชว์ที่อเมริกา มีเป้าที่จะเน้นไปหารือกับนักลงทุนในกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งรายใหญ่ก็จะมี NVIDIE และ intel เป็นต้น”

ADVERTISMENT
นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์
นฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์

สำหรับสิทธิประโยชน์ที่บีโอไอมีให้ขณะนี้จะแบ่งเป็นประเภทกิจการ 10 กลุ่ม โดยจะบวกเพิ่มตามมูลค่าเพิ่ม (Merit-based) ตามพื้นที่ เช่น ลงในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พื้นที่ชายแดน (SEZ) นิคมอุตสาหกรรม และตามมาตรการต่าง ๆ เช่น มาตรการกระตุ้นการลงทุน มาตรการรักษาและขยายฐานการผลิตเดิม มาตรการส่งเสริมการย้ายฐานธุรกิจแบบครบวงจร มาตรการส่งเสริม SME เป็นต้น

ขณะที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตั้งเป้าที่จะสร้างบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมใหม่โดยปี 2573 (5 ปี) จะสร้างบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์ 80,000 คน ด้าน EV อีก 150,000 คน และด้าน AI อีก 50,000 คน

ส่วนกระทรวงพลังงาน เร่งเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดให้ได้สัดส่วนที่ 51% ในปี 2580 หรือ 63,867 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 22.6% และต้องสร้างความเสถียรให้มากขึ้น มีราคาที่เหมาะสม สำหรับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีความพร้อมทุกอย่างด้านดิจิทัลเพราะไม่ใช่เรื่องใหม่ ด้วยเรื่องดิจิทัลมันแทรกอยู่ในทุกอุตสาหกรรมอยู่แล้ว