
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่ม หลังตลาดคาดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงไม่จบในเร็ววัน
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับเพิ่มขึ้น หลังตลาดยังคงคาดว่าความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนมีโอกาสน้อยที่จะจบลงในเร็ววันนี้ เนื่องจากเงื่อนไขต่าง ๆ ของแต่ละฝ่ายยังคงยากที่จะบรรลุข้อตกลงได้ แม้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมายูเครนจะตกลงตามเงื่อนไขของสหรัฐที่จะเริ่มต้นการหยุดยิงเป็นระยะเวลา 30 วัน
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 14 มี.ค. 2568 อยู่ที่ 67.18 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.63 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 70.58 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
ตลาดยังคงจับตาสงครามการค้าครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐและชาติคู่ค้าอื่น ๆ อย่างใกล้ชิด หลังในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศว่าอาจพิจารณาการขึ้นภาษีในกลุ่มภาษีแอลกฮอล์ของยุโรปเพิ่มเติม
Baker Hughes เผยจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซของสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 14 มี.ค. 68 ทรงตัวเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 592 แท่น
ราคาน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดการส่งออกน้ำมันเบนซินของจีนมีแนวโน้มปรับลดลง จากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นภายในประเทศบางส่วนในช่วงไตรมาสที่ 2/68
ราคาน้ำมันดีเซล
ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แม้สต๊อกน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ สำหรับสิ้นสุด ณ วันที่ 13 มี.ค. ปรับลดลง 2.87% สู่ระดับ 10.93 ล้านบาร์เรล