
“พิชัย” รมว.พาณิชย์ เชื่อมั่นสหรัฐฯจำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่ไทย ไม่กระทบกับการค้า การส่งออก ย้ำจากความสัมพันธ์อันดีและหลายระดับจะสามารถเจรจาได้ ด้านเอกชน แนะภาครัฐทำงานเชิงรุก กระตุ้นเศรษฐกิจ ดันการส่งออก ปัญหานั้น เชื่อว่าไม่มีผลกระทบ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาประกาศคว่ำบาตรจำกัดวีซ่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยที่เกี่ยวข้องกับการส่ง 40 ชาวอุยกูร์ไปจีน จะส่งผลกระทบต่อการค้าไทยหรือไม่ ว่า จะไม่มีกระทบต่อภาคการค้า การส่งออก และยังเชื่อว่าด้านการค้า-ขาย ย่อมสามารถที่จะเปิดการเจรจาได้ โดยในส่วนของกระทรวงพาณิชย์เองนั้น มีความสัมพันธ์อันดีในหลายระดับ รวมถึงด้านการค้า และเชื่อว่าเจรจาได้ไม่มีผลกระทบ เพราะสุดท้ายแล้วทุกคนก็ต้องกลับมาทำการค้า กลับมาทำธุรกิจ
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังให้ความสำคัญกับการเจรจา ข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ซึ่งก็มีความคืบหน้าไปมาก ทั้งยุโรป ภูฏาน เป็นต้น รวมไปถึงฉบับอื่นๆที่อยู่ระหว่างการเจรจา ซึ่งคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายใต้ภายในปีนี้ ส่วนการเจรจากับสหรัฐ เราไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมศึกษาและพิจารณาอย่างรอบคอบ นอกจากนี้ ก็จะเร่งขยายการส่งออก โดยเฉพาะเอเชียใต้ซึ่งมีการเติบโตอย่างมาก
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับการยกเลิกวีซ่าของเจ้าหน้าที่รัฐ ทางมุมมองของเอกชน ไม่น่าจะมีผลกระทบ แต่สิ่งที่ต้องติดตามคือนโยบาย ทรัมป์ 2.0 เพราะไม่สามารถคาดเดาได้ ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ โดยเฉพาะสินค้าที่ผลิตด้วยแรงงานในประเทศ ซึ่งทางภาคเอกชนไทยยืนยันได้ว่าให้ความสำคัญกับการใช้แรงงาน ที่ถูกต้องตามกฎหมายและคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเข้มงวด ซึ่งได้รับการยอมรับจากสากลแล้ว
อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้า และเร่งแก้ปัญหา คือ เศรษฐกิจ การส่งออก และกระตุ้นการท่องเที่ยว รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาที่ยังคงมีผลกระทบโดยเฉพาะเรื่องของการเจรจาการส่งออกน้ำเชื่อม การแก้ปัญหาทุเรียน การแก้ไขปัญหาสินค้าไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งมองว่าจำเป็นจะต้องเดินหน้าเชิงรุก