
TRT-ถิรไทย ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า ก้าวสู่ปีที่ 40 เล็งออกสินค้า Green Product ปูทางสู่ Zero Carbon Footprint ภายในปี 2065 กางแผนธุรกิจปี 68 ขอรักษารายได้ 3,000 ล้าน เติบโต 4% รับมือ ศก.โลกผันผวนหนัก
นายสัมพันธ์ วงษ์ปาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ถิรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TRT เปิดเผยว่า ปี 2567 มีรายได้รวม 2,881.98 ล้านบาท มาจากกลุ่มธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer) ซึ่งมีลูกค้าหลักเป็นหน่วยงานรัฐ เช่น การไฟฟ้านครหลวง (MEA) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGAT) บริษัทเอกชนทั่วไป และตลาดส่งออก จำนวน 2,617 ล้านบาท
สำหรับปี 2568 เป็นปีที่ TRT เข้าสู่ทศวรรษที่ 4 มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจภายใต้ค่านิยม 4 ประการ ได้แก่ 1.การทำงานแบบทีมเวิร์ค (Team work) 2.การทำงานอย่างมีคุณภาพ (Quality) 3.การทำงานอย่างมีคุณธรรม (Integrity) และ 4.การทำงานโดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customers Focus)
“จากค่านิยมองค์กร การดำเนินงานจึงออกมาเพื่อสนับสนุนความต้องการลูกค้าทุกอย่าง (Engineering-to-Order) บนสินค้าและบริการที่มีคุณภาพ เราเป็น 1 ใน 2 ผู้ผลิตหม้อแปลงรายใหญ่ในไทย และระดับภูมิภาค ที่สามารถผลิตหม้อแปลงขนาดใหญ่ระดับ 525 MVA ได้”
บริษัทเดินหน้าก้าวสู่เป้าหมาย Zero Carbon Footprint ภายในปี 2608 (ค.ศ. 2065) โดยช่วงปลายทศวรรษที่ 4 ได้เริ่มวางนโยบายและดำเนินธุรกิจแบบ Green Business และ Green Product ด้านการประหยัดพลังงานและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ล่าสุด ช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทได้รับรางวัล “อุตสาหกรรมดีเด่น ประจำปี 2567” หรือ THE PRIME MINISTER’S INDUSTRY AWARD 2024 ประเภทอุตสาหกรรมเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเพื่อนำออกมาทำตลาดในอนาคตด้วย
แผนธุรกิจปี 2568 ตั้งเป้ารายได้รวม 3,000 ล้านบาท มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Back log) 1,394 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า 1,254 ล้านบาท และ 141 ล้านบาทเป็นกลุ่มที่ไม่ใช่ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า โดยจะรับรู้รายได้ปี 2568 จำนวน 1,295 ล้านบาท และรับรู้รายได้ปี 2569 จำนวน 100 ล้านบาท
ในด้านการเติบโตวางเป้าไว้ที่ 4% เป้ากำไรขั้นต้น 18-20% และกลุ่มธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลงไฟฟ้า เป้าเติบโต 9% มีกำไรขั้นต้น 18-20% เช่นเดียวกัน
ปัจจุบันบริษัทได้ยื่นเสนอราคางานประมูลภาครัฐ มูลค่ารวม 13,878 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มหม้อแปลงไฟฟ้า 11,655 ล้านบาท และไม่ใช่หม้อแปลงไฟฟ้า 2,223 ล้านบาท ประเมินว่ามีโอกาสที่จะได้งาน (คำสั่งซื้อ) 20%
ด้านนายกานต์ วงษ์ปาน เลขานุการบริษัท และผู้จัดการฝ่ายการเงินบัญชีและเทคโนโลยีสารสนเทศ TRT กล่าวเพิ่มเติมว่า รายละเอียดผลประกอบการปี 2567 มีรายได้รวม 2,881.98 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 4 ปี
แบ่งเป็นรายได้จากการขายและบริการ 2,844.19 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้น (Gross Profit) 639.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 จำนวน 100 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้น 22.5% ต่ำกว่าปี 2566 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 25.29% แต่เป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่ยังคงรักษาอัตรากำไรขั้นต้นมากกว่า 20%
บริษัทมี EBITDA จำนวน 443.35 ล้านบาท และ EBIT จำนวน 374.42 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 222.65 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 7.73% สูงสุดในรอบ 4-5 ปีที่ผ่านมา
สำหรับรายได้ปี 2567 จำนวน 2,881.98 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer) จำนวน 2,617 ล้านบาท และธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลง (Non-Transformer) เช่น แบตเตอรี่ลิเธียม, รถกระเช้า, รถเครน, และตัวถังหม้อแปลงไฟฟ้า มีรายได้รวม 265 ล้านบาท เพิ่มจากปีก่อนหน้า 120 ล้านบาท
โดยรายได้ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า แบ่งเป็นรายได้จากการขายกลุ่มลูกค้าภาครัฐและเอกชนในประเทศ 2,204 ล้านบาท การส่งออก 290 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจบริการ 119 ล้านบาท
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นของกลุ่มธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่ที่ 20% ลดลงจากปี 2566 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 24% และธุรกิจที่ไม่ใช่หม้อแปลง มีอัตรากำไรขั้นต้น 46% เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น 44%