พาณิชย์หารือกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนเตรียมยื่นWritten Submissionต่อสหรัฐกรณีนำเข้าสินค้าที่กระทบต่อความมั่นคงภายในปท.

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศได้เปิดเผยว่า จากการที่เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ขอให้ รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ ใช้อำนาจตามมาตรา 232 ภายใต้กฎหมาย Trade Expansion Act of 1962 เปิดการไต่สวนกรณีผลกระทบจากการนำเข้ารถยนต์อเนกประสงค์ รถตู้ รถบรรทุกขนาดเล็ก และชิ้นส่วนยานยนต์ โดยถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ให้แล้วเสร็จภายใน 270 วัน โดยเสนอผลการไต่สวนและข้อเสนอแนะต่อประธานาธิบดีฯ ให้พิจารณาตัดสินใจภายใน 90 วัน

ทั้งนี้ หากเห็นด้วยกับผลการไต่สวนที่เสนอ ประธานาธิบดีฯ สามารถขึ้นภาษีนำเข้าสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนจากประเทศผู้ถูกไต่สวนทันที โดย DOC ได้เปิดรับความเห็น/ข้อมูล/ข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสียและสาธารณชนทั่วไปในระหว่างขั้นตอนการไต่สวน ทั้ง 3 ขั้นตอน ดังนี้ (1) Written Submission, Requests to Appear at Public Hearing, Summary of Expected Testimony (2) Rebuttal Comments (3) Public Hearing ซึ่ง คต. ได้เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวภายใต้หัวข้อเรื่อง “สหรัฐฯ เตรียมเก็บภาษีนำเข้าสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนกรณีกระทบต่อความมั่นคงภายในประเทศ” ไปแล้วเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561

เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2561 กรมฯ ได้จัดประชุมหารือในประเด็นดังกล่าวร่วมกับกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม และสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน ซึ่งที่ประชุมฯ ได้ข้อสรุปในการกำหนดแนวทางการจัดทำ Written Submission ดังนี้ ผู้แทนการยื่นฯ ของฝ่ายไทยควรดำเนินการในนามองค์กร/สมาคม โดยตรง เพื่อเป็นการแสดงท่าทีอย่างกระตือรือร้นของฝ่ายไทย โดยเลือกให้ข้อมูลพร้อมสถิติและการอ้างอิงที่น่าเชื่อถือตามหัวข้อที่เป็นผลทางบวกแก่ไทย ดังเช่น

(1) อัตราการขยายตัวของอุตสาหกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับเหตุผลทางด้านความมั่นคง (2) ผลกระทบของการแข่งขันจากต่างประเทศต่อสวัสดิการทางเศรษฐกิจ (3) ปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศอ่อนกำลังลง และ (4) การสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆ ที่จำเป็นเพื่อการป้องกันประเทศ เป็นต้น อย่างไรก็ดี Written Submission ควรเป็นผลสรุปการหารือภายในกลุ่มยานยนต์ฯ ที่ผ่านการพิจารณาจากที่ปรึกษากฎหมายแล้ว และควรเร่งดำเนินการทางเว็บไซต์ www.regulations.gov หัวข้อ Docket No. DOC-2018-0002 ให้แล้วเสร็จก่อน 22 มิถุนายน 2561

แม้ว่าที่ผ่านมา ไทยมีส่วนแบ่งทางการตลาดสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์นำเข้าของสหรัฐฯ ร้อยละ 0.1 และ 2.0 ตามลำดับ แต่ไทยมีการส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยังเม็กซิโกและแคนาดาโดยใช้สิทธิทางภาษี NAFTA เพื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในที่สุด ดังนั้น หากเม็กซิโกรวมทั้งแคนาดาถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าฯ จากมาตรการดังกล่าว ก็จะส่งผลกระทบต่อกลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนของไทยอย่างแน่นอน ทั้งนี้กรมการค้าต่างประเทศจะเร่งติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว และเผยแพร่ให้หน่วยงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องทราบทันที ซึ่งรายละเอียดสาระสำคัญของข้อมูล สามารถสืบค้นได้ที่เว็บไซต์ www.regulations.gov หัวข้อ Docket No. DOC-2018-0002