พจน์ ปธ.หอการค้าคนใหม่ ลุยงานตาม 4 แนวทางหลักมั่นใจ GDP ปีนี้โต 3%

พจน์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย พร้อมลุยงานหลังรับตำแหน่ง ภายใต้ความท้าทายทางเศรษฐกิจ-สังคม มุ่งสู่ “Ready for Future Transformation” ตาม 4 แนวทางหลัก ยังคงมั่นใจการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างเติบโตอยู่ที่ 3%

นายพจน์ อร่ามวัฒลลลลบนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การเข้ามารับตำแหน่งประธานหอการค้าไทยในปีนี้ ภายใต้ความท้าทาย ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม และภูมิรัฐศาสตร์ ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน ดังนั้น หอการค้าไทย ต้องพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลง “Ready for Future Transformation” และต้อง Transform ธุรกิจ ผ่าน 4 แนวทางหลัก ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่น ขยายโอกาสทางธุรกิจ และเสริมศักยภาพให้เศรษฐกิจไทย

“ผมเองต้องขอขอบคุณเครือข่ายหอการค้าไทยทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ เลือกผมและคณะกรรมการให้มาดำรงตำแหน่งเป็นประธานหอการค้าไทย คนที่ 26 เมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ผมพร้อมที่จะสานต่อการทำงานภายใต้แนวคิดนโยบายของอดีตประธานหอการค้า ที่ผ่านมาทุกท่าน รวมทั้งของท่านประธานสนั่น อังอุบลกุล และต่อยอดเป็น “Unlocking New Growth : ศักยภาพใหม่แห่งการเติบโต” ซึ่งจะเป็นยุทธศาสตร์หลักของหอการค้าไทยในการขับเคลื่อนประเทศให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก”

สำหรับ 4 แนวทางหลัก

1) Build Business Confidence & Strengthen Trade & Investment in Global Supply Chains เสริมความเชื่อมั่นทางธุรกิจ และขับเคลื่อนการค้า การลงทุนของไทย สอดคล้องกับซัพพลายเชนโลก เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรงของภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้า (ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ ต้นทุนดำเนินธุรกิจที่สูง และการแข่งขันที่เข้มข้นในห่วงโซ่อุปสงค์และอุปทานโลก)

ซึ่งปัจจุบัน ความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ส่งผลโดยตรงต่อการค้า การลงทุน และอุตสาหกรรมของไทย เราจำเป็นต้องมีแนวทางที่ชัดเจนในการรับมือ โดยที่ผ่านมาหอการค้าไทยจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐและเอกชน ผ่านแนวคิด “Team Thailand+” เพื่อสร้างความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพในการเผชิญกับความท้าทายระดับโลก

ADVERTISMENT
  • การตั้งกลไกความร่วมมือไทย-จีน และความร่วมมือกับประเทศอื่น เช่น ไทย-US, ไทย-EU, ไทย-ญี่ปุ่น เป็นต้น และ Special Team กับภาครัฐ เพื่อจับตาการค้าโลก และแสวงหาโอกาสให้ประเทศไทย รวมถึงผลักดัน FTA และความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศคู่ค้า เพื่อขยายโอกาสทางการค้าให้กับภาคธุรกิจไทย
  • การสร้างแนวทางรับมือความเสี่ยงที่เกิดจากนโยบายกีดกันทางการค้า และการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทานโลก ยกตัวอย่างเช่น ศูนย์ประสานงานและประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรและอาหาร หรือศูนย์ AFC (Agriculture and Food Coordination and Public Relations Center) ที่เราได้นำร่องแล้ว เพื่อให้เกิดการสื่อสารและแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาดและราคาตกต่ำอย่างทันท่วงที
  • การสนับสนุนการลงทุนของไทยในต่างประเทศ และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผ่านนโยบายที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ รวมทั้งเพิ่มการส่งเสริมให้ธุรกิจเดิมที่เคยได้รับการส่งเสริมแล้วให้ได้รับการสนับสนุนต่อ หากมีการปรับปรุงหรือลงทุนเพิ่ม โดยทำงานร่วมกับภาครัฐ เช่น BOI เป็นต้น

2) Business Transformation : Innovation, Digital, AI, Robot, IOT & ESG Integration เร่งการเปลี่ยนผ่านทางธุรกิจ และเศรษฐกิจยั่งยืน โดยเฉพาะภาคธุรกิจไทยที่ยังขาดความพร้อมในการปรับใช้เทคโนโลยีและแนวทาง ESG เพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจในอนาคต หอการค้าจึงมุ่งผลักดัน Digital Transformation ในทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะ AI, Robot, IOT และ Automation รวมถึงสนับสนุนโมเดลธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วย ESG เช่น Circular Economy และส่งเสริมความร่วมมือระหว่างสตาร์ตอัพและองค์กรขนาดใหญ่ เพื่อสร้างนวัตกรรมและโมเดลธุรกิจแห่งอนาคต

เราจึงปรับโครงสร้างหอการค้าไทยให้ทันสมัยและตอบโจทย์เศรษฐกิจใหม่ เพื่อให้หอการค้าไทยสามารถเป็นผู้นำในการผลักดันเศรษฐกิจและธุรกิจไทยในยุคเปลี่ยนผ่าน โดยหอการค้าได้กำหนด 5 เสาหลักในการดำเนินงาน จากเดิมที่มี 3 เสาหลัก เพิ่มเติมอีก 2 เสาหลัก ได้แก่

ADVERTISMENT

1. การค้าและการลงทุน – สนับสนุนให้ธุรกิจไทยขยายตลาดและการลงทุน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลก

2. เกษตรและอาหาร – ผลักดันเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farming), Future Food, Halal และการใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาหาร และพร้อมที่จะเป็น Foods Hub ของโลก

3. ท่องเที่ยวและบริการ – ยกระดับธุรกิจท่องเที่ยวด้วยการท่องเที่ยวคุณภาพสูง เน้นคุณภาพไม่เน้นปริมาณ

4. AI, Robot, Digital Technology และ Innovation – ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในภาคธุรกิจ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน และสนับสนุน Startup & Deep Tech เป็นต้น

5. Sustainability – ผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยก้าวสู่ Net Zero Economy ด้วยการนำหลัก ESG มาใช้เป็นมาตรฐาน

3) Talent Development ยกระดับศักยภาพคนไทยและสร้างเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมสู่การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจและเทคโนโลยีต้องการแรงงานที่มีทักษะแห่งอนาคต ซึ่งสิ่งสำคัญคือการ Reskill & Upskill คนไทย ให้พร้อมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลและอุตสาหกรรมใหม่ เราต้องเสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและ SMEs ผ่านการฝึกอบรม AI, Digital Marketing และ e-Commerce การพัฒนาเครือข่าย Talent Ecosystem (ระบบนิเวศที่เชื่อมโยงทุกองค์ประกอบด้านการพัฒนาบุคลากร) โดยความร่วมมือของสถาบันการศึกษา ภาครัฐ และเอกชน

ในส่วนของภายในองค์กร เราจะมีการปรับโครงสร้างคณะกรรมการ และทีมงานหอการค้าไทย พร้อมเสริม Talent คนรุ่นใหม่ เข้ามาช่วยขับเคลื่อนองค์กร พร้อมกันนี้ การพัฒนาหน้าที่ “ความเป็นพลเมือง” จะช่วยเสริมสร้างสังคมที่มีความรับผิดชอบร่วมกัน มีการดูแลเอาใจใส่ในส่วนรวม และมีความเป็นธรรม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ถ้าเราพัฒนา “คน” ได้ ธุรกิจไทยจะปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

4) Empowering SMEs & Strengthening Public-Private Partnerships : ส่งเสริมสมาชิกเครือข่ายหอการค้า, SMEs ให้เข้มแข็ง และเสริมสร้างความร่วมมือภาครัฐ-เอกชน โดยเฉพาะเครือข่ายนานาชาติ
ปัจจุบัน SMEs ไทยเผชิญกับปัญหาอุปสงค์ในประเทศที่อ่อนแอ ต้นทุนที่สูง และข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งทุน ในขณะที่ SMEs คือกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจไทย หากเราสนับสนุนได้ตรงจุด ประเทศจะเติบโตอย่างมั่นคง

  • สร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับสมาชิกเครือข่ายหอการค้าไทย และ SMEs
  • ผลักดันมาตรการช่วยเหลือสมาชิกเครือข่าย และ SMEs เช่น สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และการลดภาษี
  • สร้างเครือข่ายการค้าและจับคู่ธุรกิจ ผ่านความร่วมมือระหว่างหอการค้าไทย ภาครัฐ และภาคเอกชน
  • ผลักดันภาครัฐให้มีนโยบายที่สนับสนุนสมาชิกเครือข่าย และ SMEs อย่างเป็นรูปธรรม
  • ใช้พลังของภาครัฐ-เอกชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรม

ทั้งหมดนี้เป็น 4 แผนหลัก เพื่อเราจะ Ready for Future Transformation นอกจากนั้น เรายังมีเครือข่ายหอการค้า ที่เป็นจุดแข็งสำคัญในการสร้างความร่วมมือและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างมั่นคงและทั่วถึง

  • หอการค้าจังหวัด – เป็นกลไกหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น และส่งเสริมโครงการที่สอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละจังหวัด
  • สมาคมการค้า – เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมต่าง ๆ ในการร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากฎระเบียบและนโยบายที่เอื้อต่อธุรกิจ
  • หอการค้าต่างประเทศ – เป็นสะพานเชื่อมโยงโอกาสการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ
  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย – เป็นศูนย์กลางองค์ความรู้และการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ภาคธุรกิจ

ในวาระนี้ หอการค้าไทยจะเพิ่มบทบาทของเครือข่าย ให้เป็น Think Tank และ Business Enabler ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของภาคธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเราจะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ YEC หอการค้าไทย ที่หอการค้าได้เชื่อมคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่มามากกว่า 10 ปี ตั้งแต่ประธานอิสระ ผมเชื่อว่า ต่อไปเราต้องมีการครอบคลุมทุกมิติให้ทันต่ออนาคตที่จะเปลี่ยนแปลงไป

อย่างไรก็ดี หอการค้าไทยในปีนี้จะมุ่งเน้น “Unlocking New Growth” โดยใช้ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจไทยให้ก้าวหน้า แข่งขันได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้การดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการทำงานของเราจะไม่ใช่แค่การเผชิญหน้ากับปัญหาในปัจจุบัน

แต่ยังเป็นการวางรากฐานเพื่ออนาคตที่มั่นคงของเศรษฐกิจไทย ประเทศไทยต้อง “พร้อมสำหรับอนาคต” ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในปีนี้ยังคงเติบโต 3% โดยการส่งออกยังคงเป็นทิศทางที่ดี และพร้อมเร่งให้ภาครัฐเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและสังคมทั่วโลกในการรับมือแผ่นดินไหว