ราคาน้ำมันดิบ (2 เม.ย. 68) ปรับลด หลังขึ้นสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์

ราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันดิบปรับลดหลังขึ้นสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังตลาดกังวลการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของทรัมป์

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนต์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย หลังตลาดจับตาการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ที่ทรัมป์จะประกาศในวันนี้ ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้สงครามการค้าระหว่างประเทศทวีความรุนแรงขึ้น และส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัว รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันปรับลดลง

โดยราคาน้ำมันเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 1 เม.ย. 68 อยู่ที่ 71.20 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.28 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันเบรนต์อยู่ที่ 74.49 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง -0.28 เหรียญสหรัฐ

ตลาดจับตาการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (OPEC+) ในวันที่ 5 เม.ย. เพื่อทบทวนนโยบายการผลิต โดยคาดว่า OPEC+ จะมีมติปรับเพิ่มการผลิตน้ำมัน 135,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน พ.ค. หลังจากที่ได้ตกลงเพิ่มการผลิตในเดือน เม.ย.ไปก่อนหน้านี้

หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 28 มี.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.0 ล้านบาร์เรล สะท้อนถึงความต้องการใช้น้ำมันที่อ่อนแอ

รัสเซียสั่งปิดท่าเทียบเรือขนส่งน้ำมันหลัก 2 แห่งจากทั้งหมด 3 แห่ง ที่รับน้ำมันจากคาซัคสถานเพื่อส่งออก ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างคาซัคสถานและกลุ่ม OPEC+ เนื่องจากคาซัคสถานมีการผลิตน้ำมันเกินโควตา และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน มี.ค.

ADVERTISMENT

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังการนำเข้าน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซียยังคงแข็งแกร่ง และการส่งออกน้ำมันเบนซินจากอินเดียและเกาหลีใต้ที่ต่ำลงในเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ทำให้อุปทานในตลาดลดลง นอกจากนี้ ความต้องการน้ำมันเบนซินภายในประเทศญี่ปุ่นมีการปรับเพิ่มขึ้น ในช่วงวันปิดเรียนฤดูใบไม้ผลิซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. และจะสิ้นสุดในวันที่ 5 เม.ย.

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตลาดคาดว่าการส่งออกน้ำมันดีเซลจากจีนจะถูกจำกัดในช่วงไตรมาส 2 เนื่องจากโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ของจีนมีแผนการปิดซ่อมบำรุงประจำปีในช่วงเดือน มี.ค.-เม.ย. อีกทั้งรัฐบาลจีนยังคงลดอัตราคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) สำหรับการส่งออกจาก 13% เป็น 9% ซึ่งมีผลมาตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 67

ADVERTISMENT