ไทยเตรียมจัดการประชุมคณะทำงานด้านการค้าและการลงทุนกับอียู 2-3 ก.ค.นี้

ไทยเตรียมจัดการประชุมคณะทำงานด้านการค้าและการลงทุนกับอียู วันที่ 2-3 ก.ค.นี้ พร้อมใช้โอกาสนี้หารือด้านกฎระเบียบการค้า การลงทุนกับอียู

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานด้านการค้าและการลงทุนไทย-สหภาพยุโรป (อียู) (TH-EU) ครั้งที่ 13 วันที่ 2-3 ก.ค. โดยไทยจะใช้โอกาสในการประชุมครั้งนี้ หารือกับอียูเรื่องกฎระเบียบการค้า การลงทุนใหม่ๆ ของอียูที่อาจจะมีผลกระทบกับไทย เช่น นโยบายของอียูที่จะทยอยยกเลิกการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตมาจากน้ำมันปาล์มในปี 2573 เนื่องจากทำลายป่าไม้และเพิ่มก๊าซเรือนกระจก ความคืบหน้าการเจรจาระหว่างอียูกับอังกฤษเรื่องเบร็กซิต การออกกฎระเบียบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และการจัดเก็บภาษีธุรกรรมดิจิทัล เป็นต้น

ส่วนไทยจะให้อียูได้ทราบถึงการปรับแก้กฎระเบียบหรือออกกฎหมายใหม่ๆ เช่น กฎหมายด้านการแข่งขันทางการค้า กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว รวมถึง พ.ร.บ.เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ.2561 ที่จะเป็นจุดเด่นในการเชิญชวนนักลงทุนอียูมาลงทุนในอีอีซีของไทย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ การบิน โลจิสติกส์ หุ่นยนต์ และยานยนต์สมัยใหม่ เป็นต้น

ปัจจุบันอียูเป็นคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 3 ของไทย ปี 2560 มีมูลค่าการค้า 4.43 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 10.39% โดยไทยส่งออกไปอียู 2.37 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 7.5% และนำเข้า 2.06 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 13.8% โดยไทยมีสัดส่วนการค้าประมาณ 1% ของอียู สินค้าสำคัญที่ไทยส่งออกไปอียู ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ รถยนต์ อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องปรับอากาศ ไก่แปรรูป เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ไทยนำเข้าจากอียู ได้แก่ เครื่องจักรกลเครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์การบิน เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรม เครื่องจักรไฟฟ้า และอุปกรณ์ยานยนต์ เป็นต้น


ส่วนในด้านการลงทุน ในปี 2560 อียูมีการลงทุนในไทยมูลค่าประมาณ 6,575 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยมีการลงทุนในอียูมูลค่าประมาณ 1.16 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยอียูมีการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 40 ประเทศ ในส่วนของอาเซียนสรุปผลเจรจาแล้วกับเวียดนามและสิงคโปร์ และอยู่ระหว่างเจรจากับฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย รวมทั้งเตรียมรื้อฟื้นการเจรจา FTA อาเซียน-สหภาพยุโรป