ราคาน้ำมันดิบปรับลด ตลาดกังวลกำแพงภาษีสหรัฐ อาจทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย

oil

ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อ หลังตลาดกังวลว่ากำแพงภาษีสหรัฐ อาจทำให้เศรษฐกิจโลกถดถอย

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธว่าประธานาธิบดีสหรัฐ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาระงับการขึ้นภาษีเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบกลับมาติดลบอีกครั้งในวันนี้

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (4 เม.ย.) จีนได้ออกมาตรการตอบโต้กลับโดยขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐเพิ่มเติม 34% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 68 ส่งผลให้ประธานาธิบดีสหรัฐได้กล่าวว่าจะเรียกเก็บภาษีจากจีนเพิ่มเติมอีก 50% หากทางการจีนไม่ยอมที่จะถอนภาษีตอบโต้สหรัฐ นอกจากนี้ การเจรจากับจีนเกี่ยวกับภาษีตอบโต้ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าจะยุติลงทันที

คณะกรรมาธิการยุโรป (EU) ได้เสนอมาตรการตอบโต้ โดยจะขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐหลายประเภทในอัตรา 25% หลังจากที่สหรัฐได้ขึ้นภาษีการนำเข้าสินค้าประเภทเหล็กและอะลูมิเนียมจากกลุ่มประเทศยุโรป

ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐเผยว่า นโยบายกำแพงภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐ จะทำให้ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐ อาจมีการใช้อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น เพื่อควบคุมเงินเฟ้อในสินค้าและบริการที่อาจจะพุ่งสูงขึ้น โดยอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะเพิ่มต้นทุนในการกู้ยืมของผู้บริโภค และอาจทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันปรับลดลง

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นแห่งหนึ่งในมาเลเซียปิดซ่อมบำรุงหน่วยแยกคอนเดนเสตเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่ 4 เม.ย. ส่งผลให้อุปทานน้ำมันเบนซินในมาเลเซียปรับตัวลดลง ท่ามกลางตลาดคาดว่าอุปสงค์ของน้ำมันเบนซินในภูมิภาคเอเชียอาจปรับลดลง หลังจากคาดว่าสภาพเศรษฐกิจในภูมิภาคจะทรุดตัวจากนโยบายการขึ้นภาษีของสหรัฐ

ADVERTISMENT

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังตัวเลขการส่งออกน้ำมันดีเซลไปยังภูมิภาคยุโรปปรับสูงขึ้นแตะระดับ 6.8 ล้านตันในเดือน มี.ค. เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. ที่ระดับ 4.9 ล้านตัน แม้ว่าน้ำมันดีเซลคงคลังในภูมิภาค Amsterdam-Rotterdam-Antwerp ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 3 เม.ย. ปรับตัวสูงขึ้น 2.4% สู่ระดับ 2.2 ล้านตัน