
‘ธนากร เกษตรสุวรรณ’ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย คนที่ 8 วาระปี 2568-2569 พร้อม “นำพาส่งออกฝ่าวิกฤต พร้อมก้าวสู่ Wealth Nation” ผ่าน 6 แนวทางสำคัญ
รายงานข่าวจากสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย วาระปี 2568-2569 ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา มีมติเอกฉันท์แต่งตั้งนายธนากร เกษตรสุวรรณ ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย วาระปี 2568-2569 เพื่อสานต่อการดำเนินงานตามวัตถุประสงค์ก่อตั้งและพันธกิจของพระราชบัญญัติสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย พุทธศักราช 2537 ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ส่งออกไทย
ทั้งนี้ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย คนที่ 8 ตั้งเป้าหมายผลักดันยุทธศาสตร์ระยะยาวเพื่อสร้างความมั่งคั่งสู่ประเทศ หรือ Long-Term Strategy for Thailand’s National Wealth Development เพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน รวมถึงเพื่อให้ผู้ส่งออกไทยมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก ผ่าน 6 แนวทางสำคัญ ประกอบด้วย
1) การวางตำแหน่งทางภูมิเศรษฐกิจ และการสร้างพันธมิตรกลุ่มประเทศ เพื่อส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก
2) การจัดทำความตกลงการค้าเสรีกับกลุ่มประเทศเป้าหมาย
3) การบริหารกลยุทธ์การค้าทั้งสินค้าและบริการอย่างบูรณาการ
4) การปฏิรูประบบสิทธิประโยชน์บีโอไอ โดยยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก
5) การพิจารณาสิทธิประโยชน์ตามประเภทอุตสาหกรรมกำหนดหลักเกณฑ์สิทธิประโยชน์ตามสถานะของอุตสาหกรรมในประเทศ
6) การส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนไทยในต่างประเทศ
พร้อมทั้งแต่งตั้งรองประธานเพื่อผลักดันการดำเนินงานผ่าน 6 คณะกรรมการสำคัญ ประกอบด้วย
1.คณะกรรมการร่วมรัฐเอกชนด้านโลจิสติกส์และเศรษฐกิจดิจิทัล
2.คณะกรรมการ Trade Environment
3.คณะกรรมการ Maritime Transport
4.คณะกรรมการกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหาร 5.คณะกรรมการกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม
5.คณะกรรมการกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อให้สามารถประสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับสมาชิกซึ่งเป็นผู้ส่งออกจากทุกกลุ่มสินค้า ในการแก้ไขปัญหาและผลักดันข้อเสนอแนะที่สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมไปสู่ภาครัฐและภาคที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ นายธนากร เกษตรสุวรรณ เป็นผู้ก่อตั้งและดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท เล-ซี-บอย (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทในเครือ ด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมการผลิตเฟอร์นิเจอร์ซึ่งเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย ตลอดจนเครือข่ายภาคการส่งออกหลากหลายอุตสาหกรรม พร้อมทั้งมีองค์ความรู้และความมุ่งมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
ส่งผลให้คณะกรรมการและพันธมิตรของสภาเชื่อมั่นในวิสัยทัศน์เสริมสร้างบทบาทของสภาผู้ส่งออก พร้อมทั้งให้เป็นตัวแทนและนำพาให้ผู้ส่งออกไทยสามารถฟันฝ่าอุปสรรคและบริบททางการค้าโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และแข่งขันได้อย่างยั่งยืน