‘พิชัย’ เกาะติดสินค้าเกษตร เจรจาทูตจีน ระบาย ‘ทุเรียน’ หลายแสนตัน

พิชัย นริพทะพันธุ์
พิชัย นริพทะพันธุ์

“พิชัย” เกาะติดสถานการณ์สินค้าเกษตร “ข้าว-มัน-ผลไม้” ออกมาตรการช่วยเกษตรกรทันที พร้อมเจรจาทูตจีน ปูทางระบายทุเรียนหลายแสนตัน ชี้เป็นตลาดส่งออกหลักสำคัญ

วันที่ 17 เมษายน 2568 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับกรมการค้าภายในและสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ว่ากระทรวงพาณิชย์ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรอย่างใกล้ชิด พร้อมเดินหน้ามาตรการช่วยเหลือเกษตรกรในทุกมิติ ทั้งด้านการตลาด การลดต้นทุน และการรักษาเสถียรภาพราคา โดยเน้นพืชสำคัญ เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และผลไม้

โดยเฉพาะข้าวที่กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินมาตรการอย่างเข้มข้นเพื่อช่วยดึงราคาข้าวเปลือก ได้แก่ การช่วยเหลือข้าวนาปรังในการเปิดจุดรับซื้อข้าวเปลือก มีการจัดในหลายจังหวัด ได้แก่ จุดรับซื้อข้าวเปลือกนาปรัง เช่น อยุธยา สุพรรณบุรี และเชียงราย เพื่อเพิ่มช่องทางจำหน่ายและสร้างรายได้ที่เหมาะสมแก่เกษตรกร พร้อมจัดตลาดนัดข้าวเปลือกทั้งนาปรังและนาปี (ที่หมดฤดูกาลแล้ว) โดยมีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 6,800 ราย

แบ่งเป็นตลาดนัดข้าวเปลือกนาปรังใน 9 จังหวัด รวม 21 ครั้ง มีการซื้อขายในราคาสูงกว่าตลาด 100-200 บาท/ตัน รวมปริมาณซื้อขายกว่า 14,000 ตัน มูลค่าเกือบ 100 ล้านบาท ในส่วนของมาตรการช่วยเหลือผู้ปลูกข้าวนาปรังที่ผ่าน นบข.มาแล้ว อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนเกษตรกร

ขณะที่ข้าวนาปีที่หมดฤดูกาลแล้ว กระทรวงได้จัดตลาดนัดข้าวแล้วใน 24 จังหวัด จำนวน 32 ครั้ง มียอดซื้อขายกว่า 422,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 254 ล้านบาท พร้อมดำเนินโครงการสินเชื่อชะลอการขาย โดยให้เงินช่วยเหลือ 1,500 บาท/ตัน แก่ชาวนาที่มียุ้งฉาง มีเกษตรกรเข้าร่วมกว่า 324,000 ราย รวมปริมาณข้าวที่รับฝากกว่า 2.5 ล้านตัน

นอกจากนี้ ยังมีการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยรัฐชดเชยดอกเบี้ย 3.5% จากอัตรา 4.5% เพื่อสนับสนุนสหกรณ์ที่รวบรวมข้าวไว้ในระบบ ซึ่งขณะนี้มีการรวบรวมผลผลิตแล้วกว่า 580,000 ตัน และมีการชดเชยดอกเบี้ยให้กับโรงสีที่เก็บสต็อกข้าวรวมสูงสุดกว่า 2.2 ล้านตัน

ADVERTISMENT

สำหรับการสนับสนุนข้าวนาปีโดยตรง รัฐบาลได้ดำเนินโครงการจ่ายเงินไร่ละ 1,000 บาท ให้กับเกษตรกรแล้วกว่า 4.5 ล้านครัวเรือน รวมเป็นเงินกว่า 36,000 ล้านบาท พร้อมเตรียมมาตรการลดต้นทุนการผลิตในฤดูถัดไป โดยเฉพาะการลดราคาปุ๋ยเคมีและยาปราบศัตรูพืช

นายพิชัยกล่าวเพิ่มอีกว่า ในส่วนของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง กระทรวงพาณิชย์ได้ใช้มาตรการบริหารจัดการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2567/68 โดยให้การสนับสนุนสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร ปี 2567/68 วงเงินสินเชื่อ 143 ล้านบาท และมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์วงเงินสินเชื่อ 0.23 ล้านบาท

นอกจากนี้ ยังมีการบริหารจัดการการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และวัตถุดิบทดแทน ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) อัตราภาษี 0% และการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วนต่อการรับซื้อโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ 3 ส่วน

และมันสำปะหลังมีการดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังกว่า 720,000 ครัวเรือน โดยมาตรการเชื่อมโยงเปิดจุดรับซื้อได้เปิดจุดรับซื้อ 34 จุด ใน 8 จังหวัด เพิ่มการใช้มันเส้นและกากมันภายในประเทศ 2.5 ล้านตันหัวมันสด (1 ล้านตันมันเส้น) และชดเชยดอกเบี้ย 3% สำหรับการเก็บสต็อกระยะ 2-6 เดือน รวมถึงส่งเสริมสินเชื่อเพื่อรวบรวมและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดย ธ.ก.ส.คิดดอกเบี้ยเพียง 4.5%

ด้านสถานการณ์ผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนซึ่งกำลังเข้าสู่ฤดูกาลผลผลิต กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินมาตรการบริหารจัดการผลไม้ในปี 2568 รวม 7 มาตรการหลัก เช่น การตั้งชุดเฉพาะกิจเจรจาการค้ากับจีน การกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต การรณรงค์บริโภคภายในประเทศผ่านห้างค้าปลีก ห้างท้องถิ่น รถโมบาย รวมถึงสถานีโทรทัศน์ การสนับสนุนค่าบริหารจัดการผลไม้เพื่อการส่งออก การส่งเสริมการแปรรูปด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ การสร้างอัตลักษณ์ GI และการเชื่อมโยงตลาดล่วงหน้าระหว่างผู้ซื้อกับกลุ่มเกษตรกร ทั้งนี้ คาดว่ามาตรการดังกล่าวจะสามารถรองรับผลผลิตทุเรียนได้รวมกว่า 470,000 ตัน

ขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์ยังเร่งติดตามสถานการณ์ส่งออกทุเรียนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการเตรียมการพบปะหารือกับเอกอัครราชทูตจีนในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเสริมความมั่นใจให้กับตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลัก พร้อมกันนี้ยังได้ประสานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสารตกค้าง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจกระทบต่อภาพลักษณ์และศักยภาพในการส่งออกทุเรียนไทย