ระงับ BOI ชั่วคราว ‘ซิน เคอ หยวน’ แทบไม่ส่งผล เหตุสิทธิทางภาษีหมดไปนานแล้ว

กระทรวงอุตสาหกรรม เอาผิดเหล็กเส้น ซิน เคอ หยวน เผชิญข้อกล่าวหาหนัก ทั้งผลิตเหล็กไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. โรงงานถูกสั่งปิดชั่วคราว

จากกรณีที่ บริษัทซิน เคอ หยวน สตีล ถูกตั้งข้อกล่าวหาถึง 3 ข้อ ได้แก่ 1)การฝ่าฝืน พรบ.กรมโรงงานอุตสาหกรรมและยังไม่มีการแก้ไขความปลอดภัยในโรงงานให้เสร็จสิ้น 2)การผลิตเหล็กเส้นที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน มอก. และ 3)เหล็กข้ออ้อยขนาด 20 มม. กับ 32 มม.ที่เก็บตัวอย่างจากอาคารสำนักงาน สตง.ที่ถล่มลงมาจากเหตุแผ่นดินไหว ตกค่ามาตรฐานถึง 2 รอบ

แม้ทาง คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(BOI) จะมีมติให้ “เพิกถอน” การใช้สิทธิประโยชน์ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนเป็นการชั่วคราว จนกว่าทาง กระทรวงอุตสาหกรรม จะมีหนังสือมายัง คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ให้ บริษัทซิน เคอ หยวน สตีล กลับมาดำเนินการผลิตได้ และ กระทรวงได้เพิกถอนหนังสือรับรองการประกอบกิจการโรงงานแล้วนั้น

แต่การเพิกถอนการใช้สิทธิประโยชน์เป็นการชั่วคราวเพียงอย่างเดียวแทบจะไม่ส่งผลกระทบกับบริษัทในการส่งเสริมการลงทุน เนื่องจากสิทธิการ “ยกเว้น” ภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 8 ปี ซึ่งถือเป็นสิทธิประโยชน์หลักที่บริษัทได้รับส่งเสริมการลงทุนนั้น ได้ “หมดอายุ” ไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาแล้ว จากปัจจุบันที่บริษัทยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ที่ไม่เกี่ยวกับภาษีอากรอยู่

ในกรณีนี้ “ประชาชาติธุรกิจ” ได้ถามความเห็นไปยัง นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในส่วนของการเพิกถอนบัตรส่งเสริมการลงทุนของ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด เป็นการเพิกถอนสิทธิประโยชนจาก BOI เป็นการชั่วคราวในส่วนของ กิจการผลิตเหล็กแท่ง (Billet) ตามบัตรส่งเสริมเลขที่ 1235(2) ลงวันที่ 19 กุมภาพันธุ์ 2556

แน่นอนว่า หากเพิกถอนสิทธิชั่วคราวในส่วนของ Billet ก็จะส่งผลกระทบในส่วนของกิจการเหล็กประเภทอื่นของ บริษัทซิน เคอ หยวน ด้วย เนื่องจาก Billet คือ วัตถุดิบหลักในการรีดออกมาเป็นเหล็กเส้นและเหล็กแบน

อย่างไรก็ตามสิทธิประโยชน์ที่ บริษัทซิน เคอ หยวน ได้รับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI คือ การ ”ยกเว้น“ ภาษีเงินได้นิติบุคคลจำนวน 8 ปี ซึ่งแน่นอนว่า “สิทธินี้ได้หมดไปแล้ว” ก็ตาม แต่คาดว่า ยังมีสิทธิประโยชน์อื่นที่ บริษัทซิน เคอ หยวน ยังคงเหลืออยู่ แต่หากบริษัทถูกเพิกถอนสิาธิประโยชน์เป็นการถาวร มีความเป็นไปได้สูงที่ว่า รัฐบาลจะฟ้องบริษัทซิน เคอ หยวน เพื่อที่จะเอาภาษีที่ได้รับการยกเว้นคืนมาได้

เนื่องจากผิดเงื่อนไขการลงทุนและบริษัทยังประกอบกิจการผิดเงื่อนไขในกฏหมายหลายฉบับ อาทิ พรบ.โรงงานอุตสาหกรรท พรบ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และล่าสุด บริษัทยังถูก สรรพากรภาค 3 แจ้งข้อกล่าวหา มีเจตนานำใบกำกับภาษีปลอมหรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฏหมายระหว่างเดือน กค. 2558-มีค. 2560 จำนวน 7,426 ฉบับ มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท(รวมเบี้ยปรับประมาณ 1,000 ล้านบาท) ซึ่งเป็นความผิดประมวลรัษฏากรตามประกาศ กคพ.(ฉบับ 8) พศ 2568 ซึ่งอยู่ระหว่างการเสนอให้ DSI รับเป็นคดีพิเศษ

ปัจจุบัน บริษัทซิน เคอ หยวน มีโรงงานผลิตเหล็กเส้นอยู่ 2 แห่งคือ ที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง และ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง

“การที่ ซิน เคอ หยวน ถูกเพิกถอนสิทธิ BOI เป็นการชั่วคราวถือเป็นการดำเนินตามขั้นตอนของรัฐที่ต้องการจะลงโทษบริษัทในฐานะที่กระทำผิดเงื่อนไขการลงทุน ส่วนรายละเอียดเราต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ตอบ ในส่วนที่เกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรมคือ บริษัทกระทำผิดทั้ง พรบ. โรงงานอุตสาหกรรท และ พรบ. มตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม เราจึงระงับการผลิตโรงงานในเบื้องต้นไปก่อน” นายพงศ์พลกล่าว

สำหรับ สิทธิประโยชน์ตาม พรบ. ส่งเสริมการลงทุน ในส่วนขอสิทธิประโยชน์และประโยชน์ทางภาษีอากร ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอายุ 10 ปี มีดังต่อไปนี้ 1)ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (ตามประเภทกิจการเริ่มที่ 3 ปี สูงสุด 13 ปี 2)ยกเว้น/ลดย่อนอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักร 3)ลดหย่อนอากรขาเข้าสำหรับวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็น 4)ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับของที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนา

5))ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินปันผลลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล 50% 6)ให้หักค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาเป็นสองเท่า 7)ให้หักค่าติดตั้งหรือก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เกิน 25% ของเงินลงทุน และ 7))ยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบหรือวัสดุจำเป็นสำหรับการผลิตเพื่อการส่งออก

ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ไม่เกี่ยวกับภาษีอากร ได้แก่ 1)อนุญาตให้นำคนต่างด้าวเข้ามาเพื่อศึกษาลู่ทางการลงทุน 2)อนุญาตให้นำช่างฝีมือและผู้ชำนาญการเข้ามาทำงานในกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน 3)อนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน และ 4)อนุญาตให้ส่งออกซึ่งเงินตราต่างประเทศ

การได้รับสิทธิประโยชน์ส่งเสริมการลงทุนรายการใดจะขึ้นอยู่การพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ของ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)