
ผู้บริหารธนาคารกรุงเทพเผยสหรัฐอยากได้ส่วนแบ่ง “อุตสาหกรรมผลิตเรือคอนเทนเนอร์” เพิ่ม หลังจีนครองตลาดการผลิตเรือประมาณ 50% ของโลกในแต่ละปี ชี้เรื่องใหญ่และยากมาก
ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ และเลขานุการบริษัท ธนาคารกรุงเทพ แสดงทรรศนะผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 20 เม.ย. ถึงประเด็นสงครามการค้าโลก ระบุอีกหนึ่งตลาดที่สหรัฐอยากได้คืนคือ “อุตสาหกรรมผลิตเรือคอนเทนเนอร์”
USTR สหรัฐมองว่า “เรือและการขนส่งทางเรือเป็นหัวใจสำคัญของความมั่นคงของสหรัฐ ตลอดจนต่อการขนส่งสินค้า
สหรัฐต้องลดความเสี่ยงด้านการขนส่งสินค้าทางทะเลที่มีต่อ Supply Chain ของตน ต้องช่วยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการสหรัฐกลับมาผลิตเรืออีกครั้ง”
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องออกนโยบายเก็บภาษีการเข้าท่าฉบับใหม่ออกมา มุ่งเป้าไปที่เรือคอนเทนเนอร์ที่ผลิตโดยจีน และที่บริหารโดยบริษัทจีน เพื่อลดความยิ่งใหญ่ทางตลาด (Market Dominance) ของจีนในเรื่องนี้
ที่ทำให้สหรัฐกังวลใจมากเรื่องนี้ ก็เพราะจีนมีส่วนแบ่งตลาดการผลิตเรือคอนเทนเนอร์ประมาณ 50% ของโลกในแต่ละปี
ส่วนสหรัฐเคยมีส่วนแบ่งประมาณ 5% ปัจจุบันเหลือประมาณ 0.2% เคยผลิตมากกว่า 70 ลำต่อปี เป็นเบอร์ 1 ของโลก ล่าสุดเหลือน้อยกว่า 5 ลำต่อปี เป็นเบอร์ 19 ของโลก ขณะที่จีนผลิตประมาณ 1,700 ลำต่อปี
รายละเอียดของค่า Fees ที่จะคิดกับเรือต่าง ๆ ที่มาเทียบท่าสหรัฐหลังจากช่วง 180 วันผ่านไปแล้ว ที่จะทยอยเพิ่มขึ้นใน 3 ปีข้างหน้า อยู่ใน Link ด้านล่าง
จาก 50$ ต่อ Net Ton เป็น 140$ ต่อ Net Ton สำหรับเรือที่ผลิตโดยจีนที่เป็นของบริษัทเดินเรือจีน
จาก 18$ ต่อ Net Ton เป็น 33$ ต่อ Net Ton สำหรับเรือผลิตโดยจีนที่เป็นของบริษัทเดินเรือประเทศอื่น ๆ
รายละเอียดการคิดค่าธรรมเนียมค่อนข้างซับซ้อน แต่เป้าหมายชัดเจน จีนและ เรือที่จีนผลิต รวมทั้งอยากให้สหรัฐกลับมาสร้างเรือแบบนี้อีกครั้ง
เรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่ยากที่ประเทศหนึ่งจะผลิตทุกอย่างให้กับตนเอง เพราะตอนนี้สหรัฐอยากผลิตทุกอย่าง ทั้งรถยนต์ ชิป เหล็ก ยา
ปกติแล้วในทางเศรษฐกิจ ประเทศหนึ่งจะผลิตสินค้าบางกลุ่ม แล้วอาศัยการค้าในการแลกสินค้าอย่างอื่น เหมือนกับคนที่เก่งในด้านใดด้านหนึ่ง แล้วนำรายได้ที่ได้มาซื้อสินค้าที่คนอื่นผลิตมาอุปโภคบริโภค
ถ้าคนคนหนึ่งต้องผลิตทุกอย่างใช้เองชีวิตก็จะไม่ง่าย ต้นทุนต่าง ๆ ก็จะมาก นอกจากนี้ การที่สหรัฐลดการผลิตด้านเรือเดินทะเลลงมาเรื่อย ๆ คงมาจากต้นทุนทางเศรษฐกิจที่แข่งขันไม่ได้
บางส่วนมาจากต้นทุนที่แพงขึ้นในสหรัฐ บางส่วนอาจจะมาจากการสนับสนุนในการผลิตของประเทศอื่น ๆ ทำให้ซื้อมาใช้คุ้มที่สุด
การจะย้อนทวนเข็มนาฬิกาเรื่องนี้คงไม่ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่มีเพียง 4 ปี ที่จะต้องสะสมความชำนาญอีกรอบ ลงทุนสร้างและผลิต
โดยเรือใหญ่ 1 ลำต้องใช้เวลาประมาณ 1 ปีในการต่อ
เขาระบุว่า ต้องรอดูว่าสหรัฐจะสำเร็จในเรื่องนี้หรือไม่ หรือท้ายสุดคงต้องเลือกเอาเพียงบางอุตสาหกรรมที่จำเป็นจริง ๆ ไว้ในสหรัฐ และบางส่วนไว้ที่ประเทศพันธมิตรที่สหรัฐเชื่อใจ
ลิ้งที่ ดร.กอบศักดิ์ แนบมา :
https://www.cnbc.com/2025/04/17/trump-administration-announces-fees-on-chinese-ships-docking-at-us-ports.html?fbclid=
https://ustr.gov/about/policy-offices/press-office/press-releases/2025/april/ustr-section-301-action-chinas-targeting-maritime-logistics-and-shipbuilding-sectors-dominance?fbclid=