“ศิริ” เข็นบี 20 ชิมลางรถบรรทุก ตั้งจุดขายเฉพาะปั๊ม-ดันปาล์มราคาขึ้น

ราคาผลปาล์มดีด - หลังคลอดมาตรการหนุนใช้น้ำมันบี 20 ช่วยให้ราคาผลปาล์มดิบขยับขึ้นไปถึง กก.ละ 4.80 บาท จากก่อนหน้านี้ขยับไปถึง กก.ละ 5.00 บาท ระดับราคาขณะนี้ถือว่าสูงกว่าราคาเป้าหมายที่กระทรวงกำหนดไว้ กก.ละ 3.15 บาท

บิ๊กผู้ค้าน้ำมัน-รถบรรทุก ตบเท้าร่วมคิกออฟจำหน่ายน้ำมันบี 20 ดีเดย์ 2 ก.ค. ช่วยรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันปาล์ม ฝ่าแรงต้านเครื่องยนต์พัง ด้านบางจากยืนยันว่าเริ่มทดลองใช้ได้กับเครื่องยนต์บางรุ่น ส่วนเอสโซ่เล็งศึกษาตลาด ด้านสภาเกษตรกรแห่งชาติฯรับอานิสงส์ราคาผลปาล์มดีด กก.ละ 4.80 บาท เกินราคาแนะนำ 3.15 บาท กำไรโลละ 2.00 บาทแล้ว

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า วันที่ 2 กรกฎาคม 2561 นี้ ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยตัวแทนผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7, ผู้ประกอบการรถบรรทุกและเกษตรกรสวนปาล์มร่วมเปิดตัวโครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี 20 ในรถบรรทุกขนาดใหญ่ ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.นี้เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ผู้ค้าน้ำมัน 7 ราย เช่น ปตท. บางจาก ไทยออยล์ เป็นต้น จะตั้งสถานีบริการเป็นการเฉพาะให้แก่ผู้ประกอบการรถขนส่งสินค้า 24 รายทั่วประเทศ รวมทั้งจะเริ่มทดลองใช้กับเรือด่วนเจ้าพระยา โดยเบื้องต้นตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กำหนดราคาขายปลีก B20 ถูกกว่าดีเซลเกรดปกติ3 บาท/ลิตร หรือมีราคาไม่เกินลิตรละ30 บาท โดยจะใช้กลไกด้านภาษีสรรพสามิต และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเครื่องมือในการดูแล ทั้งนี้ การส่งเสริมบี 20 ช่วยดึงน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินในตลาดมาใช้ในการผลิต กระดับราคาผลปาล์มดิบให้ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 3.50 บาท เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะเปิดให้บริการทดลองจำหน่ายน้ำมันบี 20 ตามโครงการ โดยจะมีการจำหน่ายในสถานีบริการเฉพาะไม่ใช่จำหน่ายในสถานีบริการทั่วไป ทั้งนี้เชื่อว่าคุณภาพน้ำมันบี 20 เป็นเกรดที่สามารถใช้กับเครื่องยนต์ในรถบรรทุกบางรุ่นได้ และเชื่อว่าหลังจากนี้ค่ายรถยนต์หลายรายพร้อมที่จะดำเนินการส่งเสริม

“ก่อนหน้านี้บางจากได้ดำเนินการส่งเสริมการจำหน่ายน้ำมันบี 20 มาเป็นระยะเวลา 2 ปีแล้ว แต่ในขณะนั้นปริมาณผลปาล์มที่ผลิตได้ไม่เพียงพอจึงไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร ทำให้มีสัดส่วนไม่มากนักเมื่อเทียบกับการจำหน่ายน้ำมันทั้งระบบของบางจาก”

ขณะที่นายมาโนช มั่นจิตจันทรา กรรมการและผู้จัดการการตลาดขายปลีก บริษัทเอสโซ่ เปิดเผยว่า ทางบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาปริมาณความต้องการใช้น้ำมัน B20 ของกลุ่มลูกค้าทางด้านการขนส่งเชิงพาณิชย์ของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาศึกษาระยะหนึ่งจึงจะสรุปได้ ทั้งนี้ เราจะติดตามความต้องการโดยรวมของกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการใช้ B20 นี้ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการวางแผนงานของบริษัท

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สอบถามไปยังค่ายรถบรรทุกหลายราย รวมถึงบริษัทฮีโน่ ซึ่งเป็นผู้ยื่นหนังสือคัดค้านการส่งเสริมการใช้น้ำมันบี 20 ต่อลูกค้า เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์ แต่ล่าสุดค่ายรถยนต์รวมถึงฮีโน่ต่างให้คำยืนยันว่า การรับประกันกรณีที่รถบรรทุกเปลี่ยนไปใช้น้ำมัน B20 ยังคงมีอยู่ โดยค่ายฮีโน่แจ้งว่า จะต้องเปลี่ยนชุดคิตส์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายก่อนที่จะเปลี่ยนไปเติมน้ำมัน B20 ส่วนการรับประกันยังปกติ ส่วนค่ายสแกนเนียยืนยันการรับประกันเหมือนเดิม แต่ลูกค้าที่เปลี่ยนไปใช้ B20 จะต้องเพิ่มความถี่ในการนำรถบรรทุกเข้ามาเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องมากขึ้น อาทิ จากเดิมเปลี่ยนทุก 40,000 กม. ก็อาจจะต้องกลับมาเปลี่ยนทุก 30,000 กม.

นายพันศักดิ์ จิตรรัตน์ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ผลจากเดินหน้ามาตรการส่งเสริมการใช้น้ำมันบี 20 ทำให้ราคาผลปาล์มดิบขยับขึ้นไปถึง กก.ละ 4.80 บาท จากก่อนหน้านี้ขยับไปถึง กก.ละ 5.00 บาท ระดับราคาขณะนี้ถือว่าสูงกว่าราคาเป้าหมายที่กระทรวงกำหนดไว้ กก.ละ 3.15 บาท และเป็นระดับราคาที่สูงกว่าต้นทุนของเกษตรกรที่ กก.ละ 2.50-3.00 บาท

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้อีก 2 เดือนจะเป็นช่วงที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันรอบใหม่ ออกสู่ตลาดมากขึ้นนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม-ธันวาคม ดังนั้น ภาครัฐบาลควรคงมาตรการส่งเสริมการใช้บี 20 เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาผลปาล์มต่อเนื่องไป รวมถึงกำหนดมาตรการเพื่อดูแลไม่ให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ของไทยและมาเลเซียให้แตกต่างกันไม่เกิน กก.ละ 2 บาท พร้อมทั้งมาตรการส่งเสริมให้เกษตรกรตัดปาล์มคุณภาพสูง ควบคุมไม่ให้โรงงานรับซื้อผลปาล์มร่วง