เศรษฐกิจในประเทศ

พาณิชย์จ่อปรับเป้าส่งออกปี’61โตถึง 9% คาดศก.ฐานรากฟื้นตัวปลายปีนี้

“สนธิรัตน์” วางเป้าส่งออกปี 61 ใหม่เติบโต 9% คาดได้เห็นเศรษฐกิจฐานรากฟื้นปลายปีนี้แน่ หลังรัฐเร่งมือแก้ไขสินค้าเกษตร ช่วยเหลือเอสเอ็มอี และผลักดันธงฟ้าประชารัฐ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในงานสัมมนาติดปีกเอสเอ็มอีไทยบินไกลสู่ตลาดโลกว่า เร็วๆนี้ กระทรวงพาณิชย์จะปรับเป้าหมายการส่งออกปี 2561 จากเดิมที่ตั้งเป้าเติบโต 8% โดยหากประเมินการส่งออกปัจจุบัน คาดว่าตัวเลขจะเติบโตได้ถึง 9% เป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจโลกขยายตัวดีขึ้น และการทำงานอย่างหนักร่วมกับผู้ส่งออกในการผลักดันตัวเลขการส่งออกให้ขยายตัว แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงในเรื่องสงครามการค้าโลกเข้ามากระทบ แต่ยังต้องติดตามปัจจัยที่จะเข้ามากระทบ เช่น สงครามการค้าโลกระหว่างสหรัฐและจีน แต่ยังเชื่อว่าตัวเลขการส่งออกจะขยายตัวได้เกินเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ 8%

“ขณะนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้เสนอตัวเลขการส่งออกเป้าหมายใหม่มาให้พิจารณาอยู่ที่ 8-9% โดยมองว่าตัวเลข 9% น่าจะเป็นไปได้มากสุด เพราะการส่งออกในปีนี้จะต้องเกินเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 8% อยู่แล้ว แต่ได้มอบหมายให้ติดตามผลกระทบข้างเคียงจากสงครามการค้าด้วย” นายสนธิรัตน์ กล่าว

สำหรับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก กระทรวงพาณิชย์ได้ทำงานอย่างหนักร่วมกับกระทรวงการคลังในการผลักดันเศรษฐกิจฐานรากผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย โดยล่าสุดได้ขยายรูปแบบของการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยให้ร้านโชห่วย ร้านอาหาร ตลาดสด เข้าร่วมโครงการธงฟ้าประชารัฐด้วยการสมัครใช้แอปพลิเคชั่นถุงเงินประชารัฐผ่านโทรศัพท์มือถือในการรับชำระค่าสินค้าจากผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้แล้วกว่า 1.5 หมื่นราย และคาดว่าจะสามารถผลักดันให้ร้านค้าเข้าร่วมได้ตามเป้าหมาย 1 แสนรายภายในปีนี้อย่างแน่นอน ซึ่งนอกจากจะช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือร้านค้ารายย่อย ซึ่งเป็นเอสเอ็มอีให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

“เอสเอ็มอีที่จะได้ประโยชน์จากการเข้าร่วมร้านธงฟ้าประชารัฐ คิดง่ายๆวงเงินที่รัฐบาลให้ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนละ 4,000 ล้านบาท หรือปีละ 4.8 หมื่นล้านบาท ในการใช้จ่ายซื้อสินค้าเม็ดเงินเหล่านี้ก็จะมาหมุนเวียนในระบบเศรษบกิจฐานราก” นายสนธิรัตน์ กล่าว

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้เร่งเครื่องในการช่วยเหลือสินค้าเกษตรไม่ให้ราคาตกต่ำ โดยรัฐบาลมีการวางแผนในการดูแลราคาสินค้าเกษตรไว้หมดแล้ว โดยเฉพาะการใช้อี-คอมเมิร์ซ เข้ามาเป็นช่องทางซื้อขายสินค้าเกษตร เช่น ความร่วมมือระหว่างเว็บไซต์ไทยเทรดดอทคอมและอาลีบาบา กรุ๊ป ผ่านเว็บไซต์ทีมอลล์ ที่ได้มีผลักดันสินค้าข้าวและทุเรียนเข้าไปขายผ่านเว็บไซต์ดังกล่าวจนทำให้มียอดสั่งซื้อถล่มทลาย ดังนั้นการทำงานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจช่วงครึ่งปีหลังจะมีทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน และจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากฟื้นได้ภายในสิ้นปีนี้

ขณะที่เอสเอ็มอีก็ต้องปรับตัว เพื่อก้าวไปสู่การเป็นผู้ส่งออก โดยเฉพาะการร่วมมือระหว่างเอสเอ็มอี ร่วมถึงร่วมมือกับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในการขยายธุรกิจ โดยใช้ช่องทางต่างๆที่รัฐบาลสร้างไว้ให้ในการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพราะมองว่าแม้ตัวเลขการส่งออกไทยจะเติบโตได้ดี แต่หากยังกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มผู้ส่งออกรายใหญ่ ตนมองว่าการผลักดันการส่งออกยังไม่ประสบความสำเร็จหากไม่สามารถผลักดันให้เอสเอ็มอี และเกษตรกร ที่เป็นฐานคนส่วนใหญ่ของประเทศเข้ามามีส่วนร่วมในการกระจายรายได้ของภาคการส่งออก