5 เดือนแรก ผู้ส่งออกไทยแห่ใช้สิทธิ FTA-GSP เฉียด 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

5 เดือนแรก ผู้ส่งออกไทยแห่ใช้สิทธิ FTA-GSP เฉียด 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ พาณิชย์มั่นใจทั้งปี’61 ยอดใช้สิทธิประโยชน์โต 9% มูลค่า 65,000 ล้าน

นางมนัสนิตย์ จิรวัฒน์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี (มกราคม-พฤษภาคม 2561) มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) อยู่ที่ 28,030.81 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 20.48% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาและคิดเป็น 76.22% ของมูลค่าการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไปยังประเทศคู่ภาคีความตกลงทั้งหมด

ตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน มูลค่า 10,524.94 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จีน มูลค่า 7,050.45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ออสเตรเลีย มูลค่า 3,924.84 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ญี่ปุ่น มูลค่า 3,029.01 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และอินเดีย มูลค่า 1,816.82 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

เมื่อพิจารณาอัตราการขยายตัวของมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ แยกตามรายประเทศพบว่าอยู่ที่ระดับ 2 หลัก ในทุกตลาดยกเว้นนิวซีแลนด์ที่อัตราการขยายตัวเป็นลบ โดยตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูงสุด คือ อินเดีย มีอัตราการขยายตัว 28.48% รองลงมาคือ เกาหลีและจีน ซึ่งมีอัตราการขยายตัว 27.84% และ 27.43%

“แม้ว่าการลงทุนของภาคเอกชนจีนอยู่ในภาวะชะลอตัว หากรัฐบาลท้องถิ่นมีพลังขับเคลื่อนมากพอที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมของจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับออสเตรเลียซึ่งมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและมีเสถียรภาพ องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ประมาณการอัตราการขยายตัวของการนำเข้าสินค้าและบริการของจีน 5.5% และออสเตรเลียปี 2561 ขยาย 4.2% สะท้อนความต้องการบริโภคสินค้าและบริการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นในปี 2561 ดังนั้น จีนและออสเตรเลียจึงยังคงเป็นตลาดเป้าหมายสำคัญนอกเหนือจากอาเซียน ”

นางมนัสนิตย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ปัจจุบันไทยยังคงได้รับสิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP 5 ระบบ ประกอบด้วย ญี่ปุ่น สวิสเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ สหรัฐอเมริกา และรัสเซียและเครือรัฐเอกราช โดยตลาดส่งออกสำคัญของไทยทั้งในเชิงมูลค่าและอัตราการใช้สิทธิประโยชน์ คือ สหรัฐอเมริกา กล่าวคือ ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2561 (มกราคม-พฤษภาคม) มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP อยู่ที่ 1,878.20 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 60.98% ของมูลค่าการส่งออกภายใต้สิทธิ GSP รวม ซึ่งมีมูลค่า 3,079.89 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเมื่อเปรียบเทียบมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP ทั้งหมด พบว่ากว่า 90% เป็นการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP สหรัฐอเมริกา

โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP สหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 1,753.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วน 67.43%ของมูลค่าการส่งออกในรายการสินค้าได้สิทธิ GSP ซึ่งมีมูลค่า 2,600.85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา 7.28%

สำหรับ สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ภายใต้ระบบ GSP สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ เครื่องดื่มอื่นๆ ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่ง และรถจักรยานยนต์

“กรมการค้าต่างประเทศมั่นใจว่ามูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ในปี 2561 จะมีอัตราการขยายตัวไม่น้อยกว่าอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกรวม ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้มีการประเมินไว้ 9% โดยมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็น 43% ของเป้าหมายมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ที่กรมการค้าต่างประเทศวางไว้ที่ไม่น้อยกว่า 65,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ”