“ฉัตรชัย” เผยเดินหน้าเมกะโปรเจ็กต์แก้น้ำท่วม-แล้ง ปี’62 คิกออฟ 9 โครงการ6.9หมื่นล้าน

แฟ้มภาพ

‘ฉัตรชัย’ เผยเดินหน้าก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่แก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง-เพิ่มน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจ ระบุปี ‘62 คิกออฟ 9 โปรเจ็กต์ มูลค่า 6.9 หมื่นล้าน ยันใช้งบประจำปี และเป็นการทยอยขอ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 18 กรกฎาคม ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวก่อนเป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการขนาดใหญ่และโครงการสำคัญภายใต้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ครั้งที่ 1/2561 ว่า ที่ประชุมจะมีการวางแผนเพื่อดำเนินโครงการขนาดใหญ่ที่มีวงเงินดำเนินการ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาเรื่องน้ำแล้ง-น้ำท่วม และเพิ่มน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจที่มีความต้องการน้ำเพิ่มขึ้น โดยในแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (2561-2580) ระยะแรกปี 2562-2565 จะมีการดำเนินโครงการสำคัญ 31 โครงการ โดยครอบคลุมทุกพื้นที่ตามภาคต่างๆ

รองนายกรัฐมนตรี ระบุต่อว่า โดยในปี 2562 จะดำเนินการ 9 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.นครศรีธรรมราช 2.โครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยหลวงตอนล่าง จ.หนองคาย 3.โครงการประตูระบายน้ำศรีสองรัก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เลย 4.โครงการประตูระบายน้ำน้ำพุง-น้ำก่ำ จ.สกลนคร 5.โครงการประตูระบายน้ำบ้านก่อ จ.สกลนคร 6.โครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ชัยภูมิ 7.โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ (ระยะที่ 1) 8.โครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงตอนล่าง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.ชัยภูมิ และ 9.โครงการระบายน้ำบางบาล-บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งโครงการนี้จะต้องเริ่มดำเนินการในปีนี้ให้ได้ เพราะจะช่วยลดการเกิดอุทกภัยในภาคกลางตอนกลางและตอนล่าง รวมพื้นที่กรุงเทพมหานครด้วย ทั้งนี้ ในการก่อสร้างโครงการต่างๆ จะต้องมีการเวนคืนที่ดิน ซึ่งขณะนี้เหลืออีก 1-2 เปอร์เซ็นต์ที่กำลังมีการเจรจาเพื่อชดเชยค่าเวนคืน

พล.อ.ฉัตรชัยกล่าวอีกว่า โครงการเหล่านี้มีความพร้อม ทั้งมีแบบก่อสร้าง มีการรับฟังความเห็นจากประชาชนในพื้นที่ รวมถึงผ่านกระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ งบประมาณที่ใช้ในการดำเนินการทั้ง 9 โครงการใหญ่คือ 69,000 ล้านบาท โดยจะใช้งบประมาณประจำปีและเป็นการทยอยของบ ไม่ได้ขอแค่ครั้งเดียว ซึ่งโครงการต่างๆ ได้ดำเนินการโดยเรียงลำดับตามความจำเป็นเร่งด่วนแล้ว ตนยืนยันว่าหากดำเนินทั้ง 9 โครงการได้ก็จะมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 840,201 ไร่ และกักเก็บปริมาณน้ำได้ 379 ล้านลูกบาศก์เมตร อย่างไรก็ดี โครงการขนาดใหญ่เหล่านี้ บางโครงการสามารถแล้วเสร็จได้ภายใน 2 ปี แต่บางโครงการอาจใช้เวลา 4-5 ปี แล้วแต่ขนาดของโครงการ ซึ่งทั้งหมดเป็นนโยบายการบริหารจัดการน้ำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นผู้ขับเคลื่อนทั้งหมด และมีหน่วยงานประจำซึ่งเป็นฝ่ายปฏิบัติ เช่น กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมน้ำบาดาล โดยตนคาดหวังว่าโครงการทั้งหมดจะให้ประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ และช่วยลดความเสียหายจากอุทกภัยได้

 

ที่มา : มติชนออนไลน์