จิราพร ขาวสวัสดิ์ เปิดตัวว่าที่แม่ทัพหญิง “PTTOR”

ด้วยการแข่งขันอย่างรุนแรงในอุตสาหกรรมทั่วโลก ไม่พ้นแม้กระทั่งในอุตสาหกรรมน้ำมันที่ปัจจุบันจะต้องหันมาทำตลาดในธุรกิจค้าปลีกมากขึ้น และต้องยอมรับว่าธุรกิจส่วนนี้ได้กลายเป็นส่วนสำคัญอย่างมากของบริษัทน้ำมัน ในวันนี้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT ได้แยกองค์กรเกี่ยวกับธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกออกมา เพื่อความคล่องตัวและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน “ประชาชาติธุรกิจ” ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ถึงแนวทางการทำงานของ “นางสาวจิราพรขาวสวัสดิ์” รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน PTT ในฐานะรักษาการแทนประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ PTTOR

Q : ภาพรวมธุรกิจ PTTOR

บริษัท PTTOR นั้นถูกแยกออกมาจาก PTT หรือ ปตท. ที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันในฐานะผู้ให้บริการปั๊มน้ำมัน จากคณะกรรมการหรือบอร์ดบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 เป็นการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ โดยทำการโอนกิจการของหน่วยธุรกิจน้ำมันทั้งหมดมายังบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือ PTTOR มีสถานะเป็นบริษัทเอกชนอย่างเป็นทางการ หลังผ่าน ครม.ไปเมื่อวันที่ 28 มี.ค. 2560 จากนั้นจึงเริ่มเข้าสู่การแข่งขันอย่างเต็มตัว จะส่งผลให้การดำเนินธุรกิจของ PTTOR มีความคล่องตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงดำเนินการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลเช่นเดิม

Q : ทรัพย์สินที่ยังคงอยู่

จากที่ได้ประเมินมูลค่าทรัพย์สินเบื้องต้นที่ ปตท.โอนให้กับ PTTOR จะมีมูลค่าประมาณ 100,000 ล้านบาท โดยในส่วนของทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านพลังงานประเทศ เช่น คลังก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) และคลังน้ำมันที่ศรีราชา, เขาบ่อยา, บ้านโรงโป๊ะ จะยังอยู่กับ ปตท.เช่นเดิม

ขณะที่แนวทางการบริหารธุรกิจของบริษัทนั้น แน่นอนว่าเมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2561 บริษัท PTTOR ของเราที่เพิ่งได้รับการถ่ายโอนทรัพย์สินจาก ปตท. และมีผลตามกฎหมายตั้งแต่ 1 ก.ค. 2561 ได้เริ่มเดินหน้าชี้แจงกับทางพนักงานและทำมาโดยตลอด จนถึงวันที่เราจัดงาน Welcome All to PTTOR ให้กับพนักงานกว่า 1,500 คน ที่เดิมเคยเป็นพนักงานของ ปตท. แต่โอนย้ายมาเป็นพนักงานของ PTTOR เป็นสัญญาณว่าจากนี้ธุรกิจของเราจะเดินหน้าไปด้วยกัน เป้าหมายของบริษัทยังคงมุ่งไปสู่เรื่องของน้ำมันและการค้าปลีกเป็นหลัก ซึ่งเป็นการค้าปลีกน้ำมันเหมือนแบบมาตรา 7 ทุกราย

Q : ความคืบหน้าของการเตรียมตัวเข้าตลาดหุ้น

ขั้นตอนหลังจากนี้ PTTOR จะเตรียมยื่นแบบเสนอขายหุ้นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อนำหุ้นบริษัท PTTOR เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯช่วงเดือน พ.ย. 2561 คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เข้าตลาดหุ้นได้ในช่วงไตรมาส 2/2562 โดยขณะนี้รอแจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/2560 และจะเริ่มดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าไม่มีอุปสรรคในเรื่องของอะไรที่จะทำให้การเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯของบริษัทจะต้องสะดุด

Q : นโยบายการต่อสัญญาดีลเลอร์

ตอนนี้เราทราบว่าในกลุ่มธุรกิจดีลเลอร์นั้นมีความกังวลเรื่องของการเปลี่ยนสัญญาคู่ค้าระหว่าง ปตท.เดิมไปเป็น PTTOR เรายืนยันว่าตอนนี้ได้มีการหารือกับทางกลุ่มดีลเลอร์และจะไม่มีการเปลี่ยนอะไรในสัญญาเดิมที่เราเคยทำไว้ เพียงแต่มาคุยกันว่าจากนี้เมื่อเราเป็น PTTOR แล้วนั้น ในรายละเอียดจะปรับอะไรบ้างที่ไม่ใช่สาระสำคัญถึงขั้นเกิดผลกระทบต่อดีลเลอร์ที่เป็นคู่ค้ากับเรา เช่น เปลี่ยนว่าเราคือใคร

ในส่วนของปัญหาเรื่องจ็อบเบอร์เรายังคงใช้ระบบการค้าปกติแบบมาตรา 7 เหมือนเดิม ดังนั้น ไม่ว่าในสัญญากับดีลเลอร์เดิมเป็นยังไง ทุกอย่างจะคอนเวิร์สต่อไปเหมือนเดิมจึงไม่อยากให้ต้องกังวล หากจ็อบเบอร์ดำเนินตามธุรกิจแบบมาตรา 7 ก็ทำธุรกิจต่อไปได้

Q : บทบาทในการส่งเสริม B20

เราเริ่มดำเนินโครงการส่งเสริมการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 รวมกับกระทรวงพลังงาน ซึ่งล่าสุดได้มีการเปิดตัว B20 ไป เพราะขณะนี้เรามีคู่ค้าที่เป็นปั๊มน้ำมันรายใหญ่ 5 ราย (ผู้ค้ามาตรา 7) ที่เริ่มเข้าโครงการ B20 สำหรับภาคการขนส่งในรถบรรทุก โดย บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีกส่งให้กับผู้ค้าอย่างบริษัท เอสซี แคริเออร์ จำกัด, บมจ.บางจากคอร์ปอเรชั่น ส่งให้ผู้ค้า 3 ราย คือ บริษัท ทองธาราขนส่ง บริษัท คุณอนันต์ แอนด์ เค-แมน เซอร์วิส บริษัท เรือด่วนเจ้าพระยาส่วน บจ.ซัสโก้ ดีลเลอร์ส ส่งให้ ผู้ค้า หจก.ท.เที่ยงขนส่ง ซึ่งทั้ง 3 รายได้เริ่มโครงการขาย B20 แล้ว โดยจากนี้จะหารายอื่นเพิ่มเติมโดยมีเป้าหมายเพื่อต้องการให้การใช้ B20 ได้สนับสนุนเรื่องของปาล์มในประเทศให้มากที่สุด