ยูพีเอสขยายบริการ เอื้อธุรกิจไทยเชื่อมโยงการค้าสู่ทั่วโลกได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปรับการขนส่งเร็วขึ้น 1 วันในการส่งออก-นำเข้าสินค้าจากเขตอีอีซี กทม. ปริมณฑลสู่ปลายทาง-ต้นทางในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐ ขยายเวลาเข้ารับพัสดุนานขึ้น 7 ชั่วโมง
นายรัสเซล รี้ด กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูพีเอส ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมขยายศักยภาพการบริการในประเทศไทย เพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์และไฮเทค ซึ่ง 2 อุตสาหกรรมนี้รัฐบาลไทยได้กำหนดให้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 เป็นนโยบายของรัฐที่มุ่งเน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการสร้างเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและการพัฒนาศูนย์กลางธุรกิจใหม่ ๆ ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
โดยการขยายบริการครั้งนี้เป็นการขยายเวลาเข้ารับพัสดุสำหรับการส่งออกสินค้า ที่จะช่วยให้ธุรกิจมีช่วงเวลาสำหรับขั้นตอนการผลิตที่ยาวนานขึ้น และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการรองรับคำสั่งซื้อแบบเร่งด่วน อีกทั้งมีระยะเวลาการขนส่งที่รวดเร็วขึ้น ทั้งการนำเข้าและส่งออก เพื่อให้ทันกับความต้องการของตลาดประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการขยายบริการคือ 1.ระยะเวลาการขนส่งเร็วขึ้น 1 วัน สำหรับการส่งออกสินค้าจากพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ได้แก่ จ.ชลบุรี จ.ฉะเชิงเทรา จ.ระยอง และ จ.ปราจีนบุรีที่นอกเขตอีอีซี กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล พื้นที่อยุธยาและ จ.สระบุรี จ.ลพบุรี สู่พื้นที่ปลายทางในเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดหลักสำหรับอุตสาหกรรมไฮเทค ความรวดเร็วในการนำสินค้าเข้าสู่ตลาดมีความสำคัญมาก เนื่องจากช่วงอายุสินค้าสั้น
2.ระยะเวลาการขนส่งเร็วขึ้น 1 วัน สำหรับการนำเข้าสินค้าจากต้นทางเมืองหลักในเอเชียและยุโรป สู่ปลายทางในพื้นที่รหัสไปรษณีย์สำคัญ ๆ ใน จ.ปราจีนบุรี ระยอง สมุทรสาคร และสระบุรี ระยะเวลาขนส่งที่สั้นลง ช่วยให้ธุรกิจสามารถลดต้นทุนด้านคลังสินค้า และสามารถดำเนินการผลิตแบบทันเวลาพอดี (just-in-time) ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า
3.ขยายเวลาเข้ารับพัสดุเพิ่มสูงสุด 7 ชั่วโมงสำหรับการส่งออกสินค้าจากพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก พื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล สู่เส้นทางการค้าหลักในจีน ญี่ปุ่น อินเดีย ยุโรป และสหรัฐ ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่วงเวลาสำหรับการผลิต และเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับธุรกิจมากขึ้นในการรองรับคำสั่งซื้อแบบเร่งด่วนจากลูกค้า
ทางด้านนายจิม โอการ่า ประธานบริหาร ยูพีเอส ภูมิภาคเอเชียใต้ กล่าวว่า ในการขนส่งสินค้าของยูพีเอสทั่วโลก ทำครบวงจรทั้งการขนส่งทางถนน ทางเรือ และทางอากาศ แต่สัดส่วนโดยรวมการขนส่งทางอากาศจะค่อนข้างมากเพราะรวดเร็วกว่า อย่างไรก็ตาม การขนส่งทางถนนในอาเซียนจะมีมากขึ้นในอนาคต จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานมากมายของหลายประเทศอาเซียนในขณะนี้ และปีนี้คาดว่ายูพีเอส ประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่าเลข 2 หลัก เป็นการเติบโตที่ค่อนข้างก้าวกระโดด และในครึ่งปีหลังนี้จะมีการเพิ่มเครื่องบินขนส่งสินค้าอีก 4 ลำ
