กกร.คุมเข้มพ่อค้าพืชไร่

การประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ซึ่งมีนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน มีมติให้ออกประกาศมาตรการดูแลข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลังเส้น และปาล์มน้ำมัน มีผลบังคับใช้ 8 ส.ค.เป็นต้นไป

โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการ (พ่อค้าคนกลาง) รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่ 50 ตันขึ้นไป ต้องแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และราคา ต่อเจ้าพนักงาน กกร. จากเดิมที่กำหนดให้เฉพาะผู้ครอบครองที่ครอบครองตั้งแต่ 50 ตันขึ้นไป เช่น ผู้ประกอบการโกดัง และโรงงานอาหารสัตว์ ต้องแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และราคาเท่านั้น หากผู้ใดฝ่าฝืนประกาศ จะมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวัน 2,000 บาท กรณีการไม่แจ้งตามประกาศ การออกประกาศเพื่อให้ทันผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ฤดูกาล 2560/2561 ที่จะออกมาในเดือน ก.ย.-พ.ย. 2560 ประมาณ 4.5 ล้านตัน นอกจากนี้จะเตรียมขอความร่วมมือโรงงานอาหารสัตว์รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากเกษตรกร และเพิ่มผู้รับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เข้ามาดูแลให้ครบทั้งระบบ

ส่วนมันสำปะหลังประกาศให้ผู้ประกอบการรับซื้อในส่วนของมันเส้นตั้งแต่ 15 ตันขึ้นไป หรือคิดเป็นหัวมันสด 45 เมตริกตัน ต้องแจ้งปริมาณ สถานที่เก็บ และราคา ต่อเจ้าพนักงาน กกร.เช่นกัน จากเดิมที่กำหนดให้ผู้ครอบครองต้องแจ้งเท่านั้น เพื่อดูแลราคามันเส้นให้กับเกษตรกรในช่วงที่ผลผลิตปี 2560/2561 จะออกเดือน ต.ค.-ธ.ค. 2560 หากไม่แจ้ง จะมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังมีโทษปรับรายวัน 2,000 บาท กรณีการไม่แจ้งตามประกาศและออกประกาศให้โรงงานติดป้ายแสดงราคาการรับซื้อผลปาล์มสดในเปอร์เซ็นต์น้ำมันตั้งแต่ 18% -22% ณ จุดรับซื้อ โดยให้ราคาเพิ่มขึ้น 30 สตางค์ทุกเปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้น แต่หากต่ำกว่า 18% จะถูกหัก 30 สตางค์ในทุก 1 เปอร์เซ็นต์เช่นกัน หากไม่ปิดป้ายแสดงราคาตามประกาศ จะมีโทษปรับ 1 หมื่นบาท


นอกจากนี้ ห้ามไม่ให้โรงงานปิดป้ายแสดงราคารับซื้อผลปาล์มร่วงเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 5 ปี ปรับ 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากต้องการส่งเสริมให้ปลูกปาล์มเปอร์เซ็นต์น้ำมันสูงขึ้น ซึ่งทุก 1 เปอร์เซ็นต์จะช่วยให้อุตสาหกรรมมีมูลค่าเพิ่มขึ้น 10,000 ล้านบาท ดีต่อระบบภาพรวมทั้งหมด