“พาณิชย์”เชื่อโครงการ SMEs Pro-active ช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการขยายตลาด-โอกาสไปสู่ตลาดต่างประเทศ

พาณิชย์ยังเชื่อมั่นโครงการ SMEs Pro-active จะช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการขยายตลาดและโอกาสไปสู่ตลาดต่างประเทศ จึงได้เดินหน้าโครงการเข้าระยะที่ 3 คาดจะมีเอกชนยังสนใจเข้าร่วมโครงการของกระทรวงพาณิชย์

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวระหว่างเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ SMEs Pro-active ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ว่า สำหรับโครงการ SMEs Pro-active นั้นเป้าหมายต้องการสนับสนุนผู้ประกอบการ (SMEs) ไทยในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ อีกทั้งเพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการด้วย และโครงการดังกล่าวได้เดินมาถึงระยะที่ 3 แล้ว

ทั้งนี้ ได้ปรับหลักเกณฑ์การสนับสนุนและกิจกรรมเพิ่มเติมที่สนับสนุนของโครงการ ได้แก่ การเริ่มต้นนับสิทธิ์การเข้าร่วมตั้งต้นใหม่ (Set Zero) เพื่อเปิดโอกาสแก่ผู้ใช้สิทธิ์รายเก่าที่ใช้สิทธิ์ครบจำนวนจากระยะก่อนหน้า รวมถึงแก้ไขคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการเป็นนิติบุคคลที่มีมูลค่าส่งออกเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีไม่เกิน 500 ล้านบาท อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสให้ผู้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ ซึ่งส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านกิจกรรมเข้าร่วมงานแสดงสินค้าและบริการในต่างประเทศ (Oversea trade exhibitions) จำนวน 6 ครั้ง โดยได้รับวงเงินสนับสนุนสูงสุดรายละ 200,000 บาท

นอกจากนี้ รวมไปถึงกิจกรรมสร้างโอกาสทางการค้าและเครือข่ายทางธุรกิจในต่างประเทศ (Business Opportunities and Partnership) ประกอบด้วยกิจกรรมเจรจาการค้า (Business Matching) และกิจกรรมนำเสนอผลงาน (Business Pitching) สำหรับธุรกิจ Startup เพื่อขายและ/หรือระดมเงินทุน เช่น การประกวดภาพยนตร์และสารคดีในต่างประเทศ จำนวน 6 ครั้ง และได้รับวงเงินสนับสนุนสูงสุดรายละ 200,000 บาท
และทางโครงการยังได้นำระบบการบริหารจัดการโครงการออนไลน์ (Online Platform) โดยเฉพาะการใช้ฐานข้อมูลออนไลน์ในกระบวนการรับสมัคร ประเมินผล และติดตามผลมาปรับใช้ในการบริหารโครงการ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย E-Government ของรัฐบาล เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการ SMEs Pro-active หากท่านใดต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้

สำหรับโครงการที่ได้ดำเนินการนั้น เป็นระยะเวลา 6 ปี (ปีงบประมาณ 2556-2561) สนับสนุนผู้ประกอบการจำนวนทั้งสิ้น 4,347 ราย เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 947 งาน และเกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจจากการส่งออกรวมสูงถึง 480 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 15,563 ล้านบาท