“ชาญศิลป์” ซีอีโอ ปตท. คนที่ 9 ชูนโยบาย “CHANGE for Future of Thailand 4.0” สานต่อธุรกิจเน้นโปร่งใส สู่ความยั่งยืน

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวคิดในการบริหารจัดการบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) ในระยะเวลาประมาณ 2 ปีนับจากนี้ จะใช้นโยบาย “CHANGE for Future of Thailand 4.0” เพื่อสานต่อการดำเนินงานตามกลยุทธ์ของ ปตท. โดยปรับปรุงการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความท้าทายต่างๆ ทั้งปัจจุบันและอนาคต

ทั้งนี้ “CHANGE” มีองค์ประกอบ 6 ด้าน ได้แก่
1)Continuity สานต่อเพื่อความต่อเนื่อง เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดยุทธศาสตร์สำหรับการดำเนินธุรกิจแบบ 3D คือ Do now, Decide now และ Design now

2) Honesty ความซื่อสัตย์ ความเที่ยงธรรม ผู้บริหารและพนักงานทุกคน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ และดำเนินการอย่างมีจริยธรรมนำธุรกิจ คำนึงถึงประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียอย่างสมดุล

3)Alignment ขยายความร่วมมือ เพิ่มความมั่นคงและยั่งยืน ใช้ความเข้มแข็งจากภายใน ปตท. และบริษัทในกลุ่ม ปตท. สร้างพลังร่วมเพื่อบูรณาการความเชี่ยวชาญ กระจายโอกาสการเติบโตออกสู่สังคมภายนอก

4)New Innovation Solution สร้างสรรค์สิ่งดีและสิ่งใหม่ หาธุรกิจที่เป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จใหม่ (New S-Curve) ของ ปตท. โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรม และแนว ความคิดใหม่ มาสรรค์สร้างให้เกิดการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ

5)Good Governance กำกับดูแลดี มีประสิทธิภาพ ยึดมั่นการดำเนินงานตามหลักธรรมาภิบาล เน้นความโปร่งใส เที่ยงตรง เป็นธรรม และตรวจสอบได้ โดยปรับปรุงบทบาทในการกำกับดูแลบริษัทที่ ปตท. ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมให้มีประสิทธิผลมากขึ้นและคำนึงถึงผลประโยชน์ภาพรวมของกลุ่ม ปตท. ตลอดทั้งสายโซ่ธุรกิจ เพื่อรักษาความมั่นคงและมั่งคั่งทั้งในเรื่องของธุรกิจพลังงานและปิโตรเคมีที่สำคัญกับประเทศต่อไป และ

6) Excellence Team Work สร้างคนรุ่นใหม่ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง มุ่งพัฒนาพนักงาน ทุกรุ่นให้สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีม มีศักยภาพ ความกล้า และพร้อมรับสภาวการณ์ที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังต้องเป็นคนกล้าที่จะก้าวข้ามความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายใหม่ๆ โดยล่าสุดได้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งภายใน ปตท. ประมาณ 50 ตำแหน่ง เพื่อวางตัวบุคลากรรุ่นใหม่ทดแทนปีที่ผ่านมาที่เกษียณจำนวนมาก

“จากการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อมและความท้าทายในอนาคต ปตท. จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่จะทำให้การดำเนินธุรกิจเติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้วยการดำเนินงานโดยยึดหลักหลักธรรมาภิบาล มุ่งเป็นองค์กรตัวอย่างของประเทศไทย เป็นหนึ่งในฟันเฟืองขับเคลื่อนประเทศให้บรรลุแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีที่วางไว้ และสอดรับกับกระบวนทัศน์ในการพัฒนาประเทศภายใต้ประเทศไทย 4.0 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ ปตท. เป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจ เน้นความโปร่งใส สู่ความยั่งยืนไม่เพียงเฉพาะในไทยแต่ยังต้องภูมิใจไปถึง AEC ด้วย” นายชาญศิลป์ กล่าว

ทั้งนี้ ปตท. ยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการความยั่งยืน 3 ด้าน (3P) อย่างสมดุล คือ การทำธุรกิจควบคู่กับการดูแลชุมชนและสังคม (People) การอนุรักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Planet) และเป็นฐานความมั่นคงให้แก่ภาคเศรษฐกิจและสังคมเติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน (Prosperity) เป็นประเทศไทยก้าวหน้าและมีความสุข