คต.พาผู้ประกอบการ YEN-D เยือนโฮจิมินห์เผยผลแมชชิ่งสุดคึกคักมูลค่าไม่ต่ำกว่า 600 ล้าน

คต.พาผู้ประกอบการ YEN-D เยือนโฮจิมินห์เผยผลแมชชิ่งสุดคึกคักมูลค่าไม่ต่ำกว่า 600 ล้าน ทูตพาณิชย์เผยเทรนด์ E-commerce เวียดนามมาแรงน่าลงทุน

กรมการค้าต่างประเทศจัดคณะผู้ประกอบการ YEN-D เยือนเวียดนามเจรจาจับคู่ธุรกิจ เผยผลสำเร็จเกิดมูลค่าการค้าขายทันทีกว่า 600 ล้านบาท พร้อมพาดูลู่ทางการเข้าสู่ตลาดเวียดนาม ทั้งในห้างและตลาดนัด หวังจุดประกายให้ผู้ประกอบการไทย ระบุปี 62 เตรียมแผนจัด YEN-D+ ขายสู่ตลาดใหม่ อินเดีย อินโดนีเซียและมาเลเซีย หวังเจาะตลาดที่มีประชากรรวมกันกว่า 1,600 ล้านคน

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการค้าต่างประเทศ ได้จัดคณะพาผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทย (YEN-D) ร่วมกว่า 72 ราย ประกอบด้วยกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตร บริการสุขภาพ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม บริษัทนำเที่ยว เครื่องสำอางและแฟชั่น อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจการรีไซเคิล ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ E-Commerce เป็นต้น เดินทางเยือนนครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ระหว่างวันที่ 14-15 กันยายน 2561 เพื่อกระชับความสัมพันธ์ต่อยอดเครือข่ายทางธุรกิจ รวมถึงพาคณะผู้ประกอบการ YEN-D ไปเจรจาจับคู่ธุรกิจเพื่อเพิ่มยอดขายและมูลค่าการค้าระหว่างไทย-เวียดนาม โดยผลของการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจก่อให้เกิดมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าทันทีมากกว่า 600 ล้านบาท

โดยการจัดคณะผู้ประกอบการ YEN-D ไทยเยือนนครโฮจิมินห์ในครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจากนางอุรีรัชต์ เจริญโต กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ กล่าวต้อนรับคณะผู้ประกอบการ YEN-D และ ดร.สุภาพร สุขมาก กงสุล (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ มาให้ความรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้าไทย-เวียดนาม และโอกาสของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของไทยในตลาดเวียดนาม และยังได้รับเกียรติจากผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุนและทำธุรกิจในประเทศเวียดนามมาเป็นเวลานาน มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์จริงและเทคนิคการทำธุรกิจในประเทศเวียดนามให้ประสบความสำเร็จ รวมถึงยังให้เทคนิคการเข้าถึงพฤติกรรมผู้บริโภค วัฒนธรรมการดำเนินชีวิตของชาวเวียดนาม การหาคู่ค้า ตลอดจนลู่ทางการค้าออนไลน์

นอกจากนี้ กรมฯ และคณะยังได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมธุรกิจศูนย์การค้า Big C ศูนย์การค้าปลีกรายใหญ่ของไทยที่เข้าไปลงทุนในประเทศเวียดนามที่สาขา Di-An และได้เข้าพบกับผู้บริหารเพื่อพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับการทำการตลาดในประเทศเวียดนาม รวมไปถึงการทำความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อนำมาวางแผนการตลาดให้ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในพื้นที่ อีกทั้งยังได้เยี่ยมชมสำรวจตลาด Ben Thanh ซึ่งเป็นตลาดท้องถิ่นของชาวเวียดนามคล้ายกับตลาดนัดจตุจักรของไทย ศึกษาวิถีชีวิตการจับจ่ายใช้สอยของชาวเวียดนามและลักษณะของสินค้าที่วางจำหน่ายในตลาดดังกล่าว

นายอดุลย์กล่าวว่า ในปี 2561 กรมฯ ได้จัดทำโครงการเพื่อขยายตลาดสินค้าและบริการของไทยในกลุ่มประเทศ CLMV ได้อย่างประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายแล้ว และในปี 2562 กรมฯ ได้วางแผนขยายตลาดไปสู่ตลาดใหม่เพิ่มเติมจากตลาด CLMV โดยเตรียมจะจัดโครงการ YEN-D รุ่นไทย-อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งเป็นตลาดที่มีผู้บริโภครวมกันกว่า 1,600 ล้านคน และมีอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจสูง

สำหรับมูลค่าการค้าระหว่างประเทศไทย- เวียดนาม 7 เดือนแรก ( มค-กค 61) 10258 ล้านเหรีอยญสหรัฐ โตขึ้น 14% ส่งออก 6970 ล้านเหรียญสหรัฐ โตขึ้น 13% นำเข้า 3288 ล้านเหรียญสหรัฐ โตขึ้น 18% จากช่วงเวลาเกียวกันของปีก่อน ไทยเกินดุลการค้ากับเวียดนาม 3682 ล้านเหรียญสหรัฐ
สินค้าส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ เม็ดพลาสติก ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ สินค้านำเข้าสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน น้ำมันดิบ เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์โลหะ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์

ดร.สุภาพร สุขมาก กงสุล (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ เปิดเผยว่า การค้าการลงทุนด้านอี-คอมเมอร์ซเวียดนามเติบโตสูงมากในห้วง 2 ปี เนื่องจากรัฐบาลโครงสร้างพื้นฐานขยายตัวส่งผลให้ผู้บริโภคในประเทศมีกำลังซื้อโดยเฉพาะพฤติกรรมการจับจ่ายของคนเวียดนามปัจจุบันเริ่มหันไปใช้แพลทฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ ดังนั้นจึงน่าจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบไทยเข้ามาลงทุน ไม่ว่าจะเป็น สินค้าไลฟ์สไตล์ อาหาร เครื่องดื่ม ยังเติบโตได้อีกมากในตลาดอีคอมเมิร์ซโดยเฉพาะนครโฮจิมินห์ที่มีการขยายตัวทางเศรษฐกิจสูงและรวดเร็วมากในขณะนี้