นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า และโฆษกกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะโฆษกกระทรวงพาณิชย์ ขอนำส่งประเด็นชี้แจงปัญหาการประมูลข้าวของรัฐบาล วันที่ 14 สิงหาคม 2560 จากกรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้ว ดังนี้
สาระสำคัญ นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ตั้งข้อสังเกตต่อกระบวนการตรวจสอบคุณภาพข้าวของหน่วยงานรัฐ หลังพบข้อพิรุธ 2 ประการ ที่อาจส่งผลกระทบความยุติธรรมต่อคดีโครงการรับจำนำข้าว
รายละเอียดคำชี้แจง 1. กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดสระแก้ว ขอชี้แจงข่าวเรื่องการจับกุมรถจำนวน 7 คันว่า รถ 7 คันดังกล่าวบรรทุกข้าวสารจากต้นทางที่อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ ปลายทางไปอำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองสระแก้วได้จับกุมและประสานให้สำนักงานพาณิชย์สระแก้วไปตรวจสอบเรื่องใบอนุญาตขนย้าย ซึ่งตามประกาศ กกร. ปี 2560 เรื่องการควบคุมการขนย้ายข้าวเปลือก ข้าวสาร กำหนดว่า ต้องมีใบอนุญาตขนย้าย ถ้า เป็นการขนออกจากอำเภอชายแดน ซึ่งอำเภอชุมพลบุรีมิได้เป็นอำเภอชายแดน จึงไม่เข้าข่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำบันทึกจับกุม และให้วางหลักประกันแล้วนำรถยนต์พร้อมคนขับกลับไปได้ นอกจากนี้ จากการตรวจสอบ พบว่าโรงสีในอำเภอชุมพลบุรีมิได้เป็นคลังกลางรับฝากเก็บข้าวสารในโครงการรับจำนำแต่อย่างใด
2. กรมการค้าต่างประเทศ ในฐานะเลขานุการคณะอนุกรรมการดำเนินการระบายข้าว ขอเรียนว่า การระบายข้าวตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ แนวทาง วิธีการ หลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ให้ความเห็นชอบ มาโดยตลอดใช้หลักปฏิบัติเดียวกันกับทุกราย ด้วยความโปร่งใส ชัดเจน โดยนำข้าวที่ผ่านการตรวจนับปริมาณและมีการวิเคราะห์และจัดระดับคุณภาพแล้วมาระบายตามจังหวะเวลา และช่องทางที่เหมาะสม โดยได้ระบายข้าวในสต็อกของรัฐตามที่คณะกรรมการ นบข. ได้เห็นชอบให้ใช้ผลการตรวจสอบตามรายงานของคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐ เป็นข้อมูลเพื่อใช้ในการระบายข้าวจนใกล้เสร็จสิ้น รวมทั้ง อคส. และ อ.ต.ก. ได้ใช้ผลการตรวจคุณภาพดังกล่าวแจ้งความดำเนินคดีกับคลังกรณีข้าวมีคุณภาพไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ซึ่งคู่สัญญาสามารถใช้สิทธิ์ต่อสู้คดีในชั้นศาลได้
