หวั่นสงครามการค้ารอบ3 รง.เดลต้าหนีทรัมป์มาไทย

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจ ม.หอการค้าไทยคาดการณ์สงครามการค้าสหรัฐ-จีนทำไทยเสียหาย 250,000 ล้านบาท จับตาชิ้นส่วนมือถือผลิตในไทยได้รับผลกระทบ ขณะที่ 80 องค์กรธุรกิจสหรัฐต้าน”ทรัมป์” ตั้งกลุ่มพันธมิตร “อเมริกันค้าเสรี”

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า จากกรณีที่สหรัฐเตรียมประกาศสงครามการค้ากับจีน โดยเตรียมปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจำนวน 6,031 รายการ มูลค่า 200,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะมีผลวันที่ 24 กันยายนนี้ ซึ่งนับเป็นการปรับขึ้นภาษีนำเข้าลอต 3 นับจากที่ได้ปรับขึ้นภาษีไปแล้ว 2 ลอต มูลค่า 50,000 ล้านเหรียญก่อนหน้านี้ ทำให้หลายฝ่ายเริ่มวิตกกังวลว่า จะส่งผลกระทบต่อไทยอย่างไร

น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เบื้องต้นจากรายงานที่สหรัฐเผยแพร่จะมีการปรับขึ้นภาษี 25% กับสินค้าทั้งหมด 6,031 รายการ แต่จะมีการปรับขึ้นภาษีไม่เท่ากันทั้งหมด โดยมีบางกลุ่มที่ปรับขึ้นไม่ถึง 25%

ทาง สนค.คาดการณ์จะมีสินค้าที่ไทยได้ประโยชน์ในการส่งออกไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐ ได้แก่ สินค้าเกษตร, ผัก/ผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป, อาหารทะเลแช่แข็งและแปรรูป, ผลิตภัณฑ์จากสัตว์, อาหารปรุงแต่งและเครื่องดื่ม, เคมีภัณฑ์และพลาสติก, ยานยนต์และส่วนประกอบ ส่วนสินค้าที่ไทยส่งออกไปทดแทนสินค้าจากสหรัฐในตลาดจีน ได้แก่ ข้าวสี, ยางแท่ง, มะพร้าว, ฝรั่ง, มะม่วง, มังคุด, น้ำผึ้งธรรมชาติ, กรดซิตริก และเครื่องยนต์สันดาปภายใน

สอดคล้องกับนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรณีนี้อาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการค้าและการลงทุนของโลก ทำให้นักลงทุนต้องวางแผนในการเข้าไปลงทุนมากขึ้น รวมทั้งผลกระทบจากการที่จะมีสินค้าส่วนเกินจากการถูกใช้มาตรการทางภาษีไหลทะลักเข้ามายังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกทดแทนการส่งออกไปสหรัฐรวมทั้งไทย “กระทรวงพาณิชย์จะคอยเฝ้าระวังสินค้ากลุ่มเสี่ยงที่จะทะลักเข้ามายังไทยต่อไปและเรายังเฝ้าติดตามกรณีที่จีนและสหรัฐได้ฟ้องร้องต่อองค์การการค้าโลก (WTO) เกี่ยวกับการใช้มาตรการทางการค้าของทั้ง 2 ประเทศด้วย”

ไทยสูญ 2.5 แสนล้านบาท

ล่าสุด นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ได้จัดทำประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงปี 2561-2565 พบผลจากปัจจัยสงครามการค้าสหรัฐ-จีน หลังจากที่มีการปรับขึ้นภาษีสินค้าไปแล้ว 2 ลอต มูลค่า 50,000 ล้านเหรียญนั้น จะส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจไทย 5 ปี ยอดสะสมมากถึง 250,000 ล้านบาท และหากมีการปรับขึ้นภาษีสินค้าลอตที่ 3 อีกคาดว่าจะมีมูลค่าความเสียหายเกิดขึ้น “เกินกว่า” 250,000 ล้านบาท

โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจคาดการณ์ว่าผลกระทบในปี 2561 จะมีมูลค่าเสียหาย 45,000 ล้านบาท ปี 2562 เสียหาย 75,000 ล้านบาท ปี 2563 เสียหาย 60,000 ล้านบาท ปี 2564 เสียหาย 40,000 ล้านบาท และปี 2565 เสียหาย 30,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ทางศูนย์ยังคาดการณ์ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2562 จะขยายตัว 4.1% เท่ากับปีนี้ โดยเป็นการคาดการณ์จากปัจจัยบวกที่เกี่ยวทั้งโครงการลงทุนขนาดใหญ่ 9 โครงการ การจัดการเลือกตั้งทั่วไป และปัจจัยเสี่ยงจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน เหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ต และวิกฤตค่าเงินในตลาดเกิดใหม่

กระทบชิ้นส่วนมือถือไทย

ด้านนายบัณฑูร วงศ์สีลโชติ รองประธานกรรมการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนรอบที่ 3 ในช่วงแรกจะส่งผลดีกับการส่งออกสินค้าไทยเพราะสินค้าที่สหรัฐประกาศในรอบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นรองเท้า-เสื้อผ้า-กระเป๋าเดินทาง ซึ่งเป็นสินค้าที่ไทยส่งออก แต่อย่างไรก็ตามไทยก็มีคู่แข่งอย่างเวียดนาม ซึ่งส่งออกสินค้ากลุ่มเดียวกัน ส่วนการขึ้นภาษีสินค้าเกษตรจีนไม่ได้ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าเกษตรมากนัก เพราะจีนไม่ได้ส่งเข้าสหรัฐมาก แต่เป็นฝ่ายนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐเอง

“แต่หากมีการประกาศขึ้นภาษีลอตสุดท้ายอีก 267,000 ล้านเหรียญ ไทยจะได้รับผลกระทบด้วย โดยเฉพาะผู้ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์มือถือ ซึ่งไทยเป็นผู้ผลิตเพื่อที่จะส่งต่อให้กับจีน ผลที่จะเกิดขึ้นก็คือ มีความเป็นไปได้ที่จีนอาจจะมีการย้ายโรงงานมาที่ไทย ซึ่งก็จะส่งผลดีกับประเทศไทยสเต็ปต่อไปก็ขึ้นอยู่กับว่าไทยจะมีมาตรการดึงดูดการลงทุนอย่างไร เพราะมีคู่แข่งอย่างเวียดนาม-มาเลเซีย-อินโดนีเซียอยู่ด้วย”

ตั้งพันธมิตรต้าน “ทรัมป์”

ล่าสุดมีรายงานจากทูตพาณิชย์ไทยประจำสำนักงานส่งเสริมการค้าชิคาโกเข้ามาว่า ขณะนี้ “กลุ่มสมาคมการค้า/อุตสาหกรรมสหรัฐ” รวม 80 องค์กร ซึ่งมีทั้งภาคธุรกิจ ผู้บริโภค และเกษตรกร ได้มีการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรที่เรียกตัวเองว่า “อเมริกันเพื่อการค้าเสรี” ได้มีการส่งจดหมายถึงสมาชิกสภาคองเกรสทั้งหมดเพื่อขอความช่วยเหลือและการสนับสนุนให้การต่อสู้เพื่อยับยั้งการใช้นโยบายเรื่องภาษีนำเข้า รวมถึงนโยบายที่เป็นอุปสรรคต่อการค้าระหว่างประเทศ เพื่อหยุดยั้งสงครามทางการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ที่จะทวีความรุนแรงมากขึ้น

เดลต้าย้ายฐานผลิตมาไทย

นายเซีย เชน เยน ประธานบริหาร บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในระยะสั้นจะส่งผลดีถือเป็นโอกาสของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างประเทศไทย-เวียดนาม แต่อาจมีการชิฟต์ไปที่อินเดียแทนก็ได้ แต่ในระยะยาวไม่ได้ส่งผลดีเพราะจะทำให้ทั้งโลกเห็นจุดอ่อนของทั้ง 2 ประเทศมหาอำนาจ

“จีนไม่สามารถหลีกเลี่ยงสงครามการค้าได้และไม่ส่งผลดีทั้ง 2 ประเทศ เมื่อช้างชนช้างมันสะเทือนไปถึงมด คือประเทศเล็ก ๆ ก็ต้องหนี”

นายกิตติศักดิ์ เงินงอกงาม ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทเดลต้าฯ กล่าวว่า ขณะนี้เดลต้าฯอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานโครงการ 7 ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อรองรับการย้ายฐานการผลิตส่วนของโรงงานเดลต้าจากจีน โดยเฉพาะสินค้าที่ส่งออกไปสหรัฐ แต่ไม่ซ้ำกับที่ไทยผลิตอยู่ ซึ่งโครงการจะแล้วเสร็จกลางปี 2562 และจะเริ่มโครงการ 8 ส่วนขยายเพิ่มอีก ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่ไทยจะได้อานิสงส์บวกอย่างมากจากการที่จีนย้ายฐานการผลิตมาไทย