ครม.ไฟเขียวแผนยุทธศาสตร์โลจิสติกส์ 5 ปี เชื่อม CLMV ทะลุจีน

วันที่ 15 สิงหาคม 2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่าการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2560-2564) เพื่อใช้เป็นกรอบนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และการดำเนินการในช่วงระยะที่ 1 ของการดำเนินการตามแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาโลจิสติกส์ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งมีเป้าหมายคือ การเป็นชาติการค้าและบริการเพื่อมุ่งสู่การเป็นประเทศรายได้สูงในปี 2579

ทั้งนี้ แนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาโลจิสติกส์ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ได้กำหนดกรอบการดำเนินการเป็น 3 ระยะ คือ (1) ระยะ 1-5 ปี ที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) (2) ระยะ 5-10 ปี : ผลักดันการพัฒนาประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการค้าในอนุภูมิภาคและภูมิภาค เชื่อมโยงการประกอบธุรกรรมทางการค้ารูปแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-Commerce) พัฒนาระบบโลจิสติกส์สู่การเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Logistics) อย่างสมบูรณ์ ขจัดอุปสรรคและอำนวยความสะดวกทั้งด้านโครงสร้างและระบบ และ (3) ระยะ 20 ปี : มุ่งสู่ความเป็นชาติการค้าและบริการของประเทศไทย ที่ได้กำหนดไว้ในทิศทางและตำแหน่งยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศด้วยการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้มีความสามารถในการแข่งขันได้บนเวทีโลก สร้างประโยชน์จากห่วงโซ่มูลค่าในภูมิภาคและใช้ฐานเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีของตนเอง

สำหรับ (ร่าง) แผนยุทธศาสตร์ฯ ประกอบด้วย 3 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 1 การพัฒนาเพิ่มมูลค่าระบบห่วงโซ่อุปทาน เพื่อพัฒนาและยกระดับมาตรฐานให้ได้ระดับสากลและสนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มและบริหารจัดการได้ทั้งห่วงโซ่อุปทาน ยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งสินค้า และระบบห่วงโซ่อุปทานเส้นทางการค้าในกลุ่ม CLMV และจีน ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาปัจจัยสนับสนุนด้านโลจิสติกส์โดยเฉพาะเร่งผลิตกำลังคนที่มีความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และระบบติดตามประเมินผลเพื่อการพัฒนาด้านโลจิสติกส์ของประเทศ