นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการนโยบายและแผนพลังงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาประกาศเชิญชวนให้ผู้ผลิตหรือผู้ค้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ยื่นเอกสารแสดงความจำนงเป็นผู้จัดหาแอลเอ็นจีในปริมาณ 1.5 ล้านตันต่อปีให้กับ กฟผ. เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ปรากฏว่า มีผู้ให้ความสนใจยื่นแสดงความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวม 43 ราย คาดว่าจะรู้ผลผู้ที่ผ่านคุณสมบัติในเดือน ต.ค.2561
“กฟผ.และที่ปรึกษาจากยุโรปคือ Fact Global Energy (FGE) จะร่วมกันตรวจสอบผู้ที่ผ่านคุณสมบัติ ซึ่งเบื้องต้นจะต้องเป็นผู้ที่ประสบการณ์ในธุรกิจน้ำมันและก๊าซ มีความสามารถในการจัดส่งก๊าซ หลังจากนั้นจะแจ้งต่อผู้เข้าร่วมแสดงความสนใจที่ผ่านการตรวจสมบัติก่อนจะเริ่มกระบวนการประกวดราคาต่อไป”
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- รักษาการอธิบดี DSI เปิดเงื่อนไข “ขนย้ายกากแคดเมียม” เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่
ทั้งนี้ ขั้นตอนการประกวดราคา และยื่นเอกสารประกวดราคา คาดว่าจะรู้ผลผู้ชนะประมูล และลงนามสัญญาจัดหาแอลเอ็นจีได้ในช่วงต้นปี 2562 โดยจะต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
สำหรับหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกผู้จัดหาแอลเอ็นจีให้กับ กฟผ.นั้นจะพิจารณาผู้เสนอนำเข้าราที่ราคาต่ำสุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อต้นทุนค่าไฟฟ้า โดยกำหนดขั้นต่ำในการจัดส่งก๊าซที่ 8 แสนตันต่อปี และกำหนดเพดานสูงสุดไม่เกิน 1.5 ล้านตันต่อปี ซึ่งเป็นไปตามมติที่ประชุม กพช.ที่อนุญาตให้กฟผ.จัดหาแอลเอ็นจีในปริมาณ 1.5 ล้านตันต่อปี ส่วนระยะเวลาการนำเข้านั้นขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ คาดว่าต้องมีการเจรจาและสรุปกันอีกครั้ง ก่อนจะออกเอกสารเชิญชวนประมูล (ทีโออาร์) ด้านราคาต่อไป
อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นแอลเอ็นจีที่จัดหามาได้นั้นจะใช้เป็นเชื้อเพลิงให้โรงไฟฟ้าวังน้อย ยูนิต 4 ขนาด 600-700 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นยูนิตใหม่ ที่มีความต้องการใช้แอลเอ็นจีเป็นเชื้อเพลิงประมาณ 7-8 แสนตันต่อปี แต่หากสามารถจัดหาแอลเอ็นจีได้มากกว่าปริมาณดังกล่าวก็จะนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าบางปะกงยูนิตใหม่ด้วย
