“สมคิด” ทุบโต๊ะฟรีค่าวีซ่า 21 ประเทศรวมจีน 2 เดือน หวังกวักนักท่องเที่ยวจีนกลับไทย

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ต้องการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับนักท่องเที่ยวจีน โดยให้ทำควบคู่กันทั้งเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยทั้งระบบ และแคมเปญการตลาดเพื่อดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาประเทศไทยภายในปีนี้ให้ถึง 10 ล้านคน โดยใช้มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival (VOA) ซึ่งปกติจัดเก็บที่อัตรา 2,000 บาทต่อคน ใน 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ตั้งแต่เดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ มาประกอบด้วย

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในมุมมองของตน อยากให้จัดการระบบการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวจีนได้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงค่อยมาคุยกันถึงเรื่องการส่งเสริมการตลาด เพราะแม้ว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนในเดือนก.ย. ที่ 651,738 คน จะลดลง 14.80% จากเดือนเดียวกันปีที่แล้ว แต่ถ้านำกราฟสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนย้อนหลังตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน เป็นทิศทางที่ดีขึ้นมาโดยตลอดทุกปี โดยเฉพาะในปี 2560 และต้นปี 2561 ก่อนเกิดอุบัติเหตุเรือล่ม นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเที่ยวไทยสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นแม้แต่ช่วงที่ต่ำสุดของปีนี้ ก็ยังมีปริมาณมากกว่ายอดสูงสุดของอีกหลายๆ ปี

“เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่จะต้องมาดูเรื่องการดูแลความปลอดภัยกันอย่างจริงจัง ไม่ใช่เอะอะก็ลดแลกแจกฟรี โดยยังไม่เจาะเข้าไปที่ประสบการณ์ที่แท้จริงของนักท่องเที่ยวเหล่านี้ ว่ามีวัฏจักรที่ต้องพบกับอะไรบ้าง แล้วแก้ไขที่ตรงนั้นให้ได้”

ขณะเดียวกัน อยากให้พิจารณาแยกแยะนักท่องเที่ยวจีน ไม่เหมาเอาหมดว่าตลาดจีนลดลงหมดทุกกลุ่มทุกประเภท ตนยอมรับว่าเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (ชาร์เตอร์ไฟลต์) และตลาดกรุ๊ปทัวร์ลดลง ก็ควรหารือ และแก้ไขที่จุดนั้นๆ โดยสิ่งที่พอคาดเดาได้ของกรุ๊ปทัวร์จีน ถ้ายังไม่แก้อาการ แนวโน้มน่าจะลดลงไปอีก ไม่ควรไปแก้ด้านราคาอย่างเดียว

ทั้งนี้ มีข้อมูลอีกประการที่รับทราบมาคือ ทางการจีนกำลังจะเพิ่มจำนวนผู้ถือหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ให้มีปริมาณมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว จากจำนวนคนจีนที่เดินทางออกนอกประเทศจากปีละ 100 ล้านคนเศษ เพิ่มเป็น 300 ล้านคนเศษในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งเราต้องคำนึงถึงประสิทธิภาพของการบริหารจัดการไว้ล่วงหน้า ทั้งเรื่องความสะดวก ความสะอาด ความปลอดภัย และความสงบเรียบร้อยในแหล่งท่องเที่ยว

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท. จัดทำแคมเปญส่งเสริมการตลาดปลายปีไว้แล้ว แต่กลัวว่าอาจจะไม่โดน และไม่เป็นยาแรงอย่างที่นายสมคิด รองนายกฯ ต้องการ แต่หากได้มาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ จะช่วยได้มาก สามารถดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาได้ และผู้ประกอบการท่องเที่ยวอยากให้มีมาตรการทางวีซ่า หลังได้หารือกับภาคเอกชนรอบล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ภาคเอกชนต้องการมาตรการวีซ่าแบบ ดับเบิล เอนทรี่ วีซ่า (Double Entry Visa) หรือจ่ายค่าวีซ่าสำหรับเดินทางเข้า 1 ครั้งในอัตรา 1,000 บาทต่อคน แต่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ 2 ครั้ง ภายในระยะเวลา 180 วัน

“เรื่องฟรีค่าธรรมเนียม 2,000 บาท/คนในการทำวีซ่าฟรี ณ ด่านตรวจคนเข้าเมืองในกับนักท่องเที่ยว จีนและกระเทศอื่นๆ รวม 21 ประเทศ คาดจะสูญเสียรายได้ 2 เดือน คือช่วง 15 พ.ย. 2561-15 ม.ค. 2562 วงเงิน 3,000 ล้านบาท แต่การกระตุ้นการท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้ คาดว่า เฉพาะนักท่องเที่ยวจีนจะกลับมายังไทย ประมาณ 1.5 ล้านคนหรือมีรายได้เพิ่ม 7.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าคุ้ม และปริมาณนักท่องเที่นวจีน จะเพิ่มได้ตามเป้า 10.5-12 ล้านคน และเรื่องนี้ช้าไม่ได้ ต้องเร่งเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่ออนุมัติเร่งด่วน”

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเสริมว่า จากสถิติเมื่อปี 2560 มีนักท่องเที่ยวจีนมาจมน้ำเสียชีวิตในประเทศไทย 70 คน คิดเป็น 40% จากจำนวนผู้ที่จมน้ำแล้วเสียชีวิตทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีจำนวนหนังสือเดินทางของชาวจีนที่มาไทย สูญหาย 1,080 เล่ม โดยแบ่งเป็น 80% ที่ถูกฉกชิง ส่วนอีกที่ 20% นักท่องเที่ยวจีนทำหายเอง

ด้านตัวแทนจากกระทรวงการต่างประเทศ รายงานต่อที่ประชุมว่า ในปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนยื่นขอวีซ่ากับสถานทูตและสถานกงสุลรวม 9 สำนักงาน เดือนละ 679,000 เล่ม ขณะนี้จะนำระบบการยื่นขอวีซ่าออนไลน์ (E-Visa) มาใช้ ซึ่งสามารถยื่นเอกสารและจ่ายค่าธรรมเนียมผ่านระบบออนไลน์ได้เลย ในส่วนนี้จะช่วยให้นักท่องเที่ยว เอฟ.ไอ.ที. มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ด้านตลาดกรุ๊ปทัวร์จะมีช่องทางยื่นขอวีซ่าผ่านระบบออนไลน์เช่นกัน นอกจากนี้ วันที่ 1 พ.ย.นี้เป็นต้นไป จะเปิดให้ขอวีซ่า VOA ผ่านระบบออนไลน์ (E-VOA) ได้

 

 

 


ที่มา ข่าวสดออนไลน์