2เรือไทยถูกจับปรับ 149 ล้าน ประมงถกข้อกม.”ฉัตรชัย”

เรือประมงถูกจับปรับสุดโหด รายแรกที่ประจวบคีรีขันธ์ทำประมงในเขตชายฝั่งถูกปรับ 38 ล้าน ขณะที่เรืออวนล้อมปลากะตักที่ระยองจับปลาช่วงกลางคืนถูกจับปรับ 111 ล้าน ตัวแทนสมาคมการประมงเตรียมเข้าหารือ “ฉัตรชัย” กฎหมายประมงเกือบ 200 ฉบับทำชาวประมงสับสนและอาจมีความผิดหลายเด้ง 17 สิงหาคมนี้

รายงานข่าวจากสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า หลังจากที่ตัวแทนคณะกรรมาธิการการประมงสหภาพยุโรป (อียู) เข้ามาตรวจสอบความคืบหน้าในการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU) ของไทยต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา และเน้นให้เจ้าหน้าที่ไทยกวดขันจับกุมเรือประมงที่ทำผิดกฎหมายมากขึ้นนั้น ล่าสุดฝ่ายไทยได้จับกุมเรือประมงขนาด 103 ตันกรอสที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเข้าไปจับปลาในเขตชายฝั่งที่ 4,000 เมตรที่สงวนไว้ให้เรือประมงพื้นบ้านจับปลาเท่านั้น โดยมีการกักเรือจนกว่าคดีจะสิ้นสุดและมีโทษปรับสูงสุด 38 ล้านบาท

“ทางเจ้าของเรือได้ร้องเรียนมาที่สมาคม เพราะไม่รู้ว่าคณะกรรมการประมงจังหวัดขยายเขตประมงชายฝั่งจาก 3,000 เมตร หรือ 3 กิโลเมตรเป็น 3 ไมล์ หรือ 5,400 เมตรตั้งแต่เมื่อใด ไม่มีการติดประกาศให้ชาวประมงรับทราบ” นายมงคล สุขเจริญคณา ประธานสมาคมการประมงแห่งประเทศไทย กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีการจับกุมเรืออวนล้อมจับปลากะตักขนาด 100 ตันกรอสขึ้นไปที่จังหวัดระยอง เพราะออกทำการประมงจับปลาในช่วงกลางคืน ขณะที่รัฐออกกฎให้จับในช่วงกลางวัน ซึ่งต้องถูกกักเรือและมีโทษปรับสูงถึง 111 ล้านบาท เนื่องจากเรือมีขนาดใหญ่และมีลูกเรือกว่า 40 คน ในขณะที่ลำแรกมีลูกเรือ 11 คน ดังนั้น หากศาลตัดสินปรับต่ำกว่าโทษสูงสุด เจ้าของเรือพอใจไม่อุทธรณ์คดีต่อ ก็อาจถูกยึดเรือได้ ยังไม่รวมถึงกรมประมงจะงดออกใบอนุญาตทำการประมงกับเจ้าของเรือ ถ้ามีหลายลำก็จะเดือดร้อนหนักขึ้น

เรื่องนี้ทางตัวแทนสมาคมจะขอเข้าหารือกับพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ วันที่ 17 สิงหาคมนี้ เพราะชาวประมงสับสนกับข้อกฎหมายที่ออกมาทั้งกฎหมายหลักกฎหมายรองเกือบ 200 ฉบับ มีการโยงความผิดต่อเนื่องหลายมาตรา ทำให้ชาวประมงมีความผิดหลายข้อหา นอกจากนี้จะขอหารือเรื่องระบบติดตามเรือ (VMS) ในเรือประมงที่เริ่มเสื่อมสภาพมากขึ้น หากเกิดปัญหาเรือประมงจะมีความผิดร้ายแรงตามมาอีก จึงขอหารือทางออกหรือการแก้ปัญหาไว้ก่อน