“บิ๊กตู่” MOU 5 ฉบับ นายกเวียดนาม ตั้งเป้า 3 ปี การค้าไทย-เวียดนาม 2 หมื่นล้านดอลลาร์

ผลการหารือข้อราชการระหว่างนายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เซ็น MOU 5 ฉบับ ตั้งเป้าการค้าไทย-เวียดนาม 2 หมื่นล้านยูเอส ภายในปี 2020

วันนี้ (17 ส.ค. 60) เวลา 17.00 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือข้อราชการกับ นาย เหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในโอกาสการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการ ณ ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ พลโท วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวสรุปผลการหารือดังนี้

ผู้นำทั้งสองได้ร่วมหารือข้อราชการ พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่าย อาทิ พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ฝ่ายสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อาทิ นายเจิ่น ต๊วง แองห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม นางเจื่อง มิ่นห์ ต๊วง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารนิเทศและการสื่อสารเวียดนาม นายจู หง็อก แองห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเวียดนาม เป็นต้น

ด้านความสัมพันธ์ทวิภาคี ทั้งสองฝ่ายยืนยันความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกัน นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณเวียดนามที่ได้ร่วมทุกข์กับชาวไทย ในเหตุการณ์สวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และร่วมสุขโดยการแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสทรงราชย์ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และร่วมฉลองในโอกาสครบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 40 ปี เมื่อปีที่แล้ว

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามแสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมย้ำว่าเวียดนามให้ความสำคัญต่อการพัฒนาหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับไทย ความร่วมมือด้านความมั่นคง ทั้งสองฝ่ายพร้อมส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมและกองทัพของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีแสดงความขอบคุณเวียดนาม สำหรับความร่วมมือที่ดีในการแลกเปลี่ยนข่าวกรองและการต่อต้านข่าวกรองผ่านการประสานงานของหน่วยงานด้านทหาร ด้านความมั่นคง และด้านข่าวกรองของทั้งสองประเทศ ไทยยินดีแบ่งปันประสบการณ์ให้แก่เวียดนามในด้านปฏิบัติการรักษาสันติภาพ และขอเรียนรู้ประสบการณ์ของเวียดนามด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้วย

ความร่วมมือด้านประมง นายกรัฐมนตรียินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหา IUU โดยฝ่ายไทยเสนอแนวทางการฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลเพื่อให้เป็นทางเลือกการดำรงอาชีพแก่ชาวประมงเวียดนามในพื้นที่ภาคใต้ที่จังหวัดก่าเมาและเกี่ยนยาง

ความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริมและผลักดันการค้าไทย-เวียดนาม โดยตั้งเป้าหมายไว้ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2020 โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการและประสานงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเวียดนามประสงค์ให้มีการพัฒนาด้านโลจิสติกส์เพื่อส่งเสริมการค้าระหว่างกัน พร้อมขอให้ไทยสนับสนุนการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเวียดนามด้านการเกษตรด้วย นายกรัฐมนตรีทั้งสองชื่นชมและเห็นศักยภาพของทั้งสองประเทศในฐานะหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่จะเจริญก้าวหน้าไปด้วยกัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีชื่นชมแนวนโยบายของนายกรัฐมนตรีเวียดนามที่ส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง และผู้ประกอบการใหม่ และการพัฒนาเศรษฐกิจเวียดนามเป็น “เวียดนาม 4.0” ซึ่งสอดคล้องกับแนวนโยบาย “ประเทศไทย 4.0” ที่เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในทุกระดับ พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีได้ฝากให้รัฐบาลเวียดนามช่วยดูแลการลงทุนของไทยในเวียดนามทุกสาขา รวมถึงเรื่องกฎระเบียบ เพื่อให้ธุรกิจไทยสามารถดำเนินงานได้อย่างราบรื่น

ความร่วมมือด้านแรงงาน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่ออำนวยความสะดวกการนำเข้าแรงงานเวียดนามในสาขาการก่อสร้างและการประมง ซึ่งเป็นไปตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างกัน ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีเวียดนามแสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การดูแลแรงงานเวียดนามเป็นอย่างดี และชื่นชมไทยที่จัดทำเว็บไซต์เพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารแก่แรงงานเวียดนาม
การสร้างความเชื่อมโยง นายกรัฐมนตรีขอให้เวียดนามร่วมกันเร่งรัดส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านเส้นทางคมนาคมทั้งทางบก ทะเล และอากาศ ระหว่างทั้งสองประเทศให้มีประสิทธิภาพ เพี่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันทางเศรษฐกิจรวมถึงส่งเสริมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ

ประเด็นด้านภูมิภาค นายกรัฐมนตรีย้ำว่าไทยจะร่วมมือกับเวียดนามขับเคลื่อนบทบาทของภูมิภาคอาเซียนทั้งในมิติการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เพราะไทยเชื่อว่าความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนที่เข้มแข็ง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังจะทำให้ภูมิภาคนี้ก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน ผู้นำทั้งสองยืนยันความสำคัญของการรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพ รวมถึงการเดินเรือและเดินอากาศอย่างเสรี ซึ่งจะเป็นประโยชน์และเป็นพื้นฐานสำคัญที่เอื้อต่อการเจริญเติบโต การพัฒนา และความมั่งคั่งของทุกประเทศ ทั้งในและนอกภูมิภาค

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังหารือถึงการส่งเสริมความร่วมมือในด้านอื่นๆ อาทิ ความร่วมมือด้านพลังงาน ความร่วมมือด้านการธนาคาร ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว และความร่วมมือด้านวิชาการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีทั้งสองยืนยันที่จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อประโยชน์ของทั้งสองประเทศ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้แสดงความขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ได้ตอบรับเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่เวียดนามจะเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายนนี้ พร้อมกล่าวเชิญนายกรัฐมนตรีและคณะเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมไทย-เวียดนาม ในช่วงต้นปี 2018 ด้วย

ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีทั้งสองประเทศได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามในบันทึกความเข้าใจและความตกลงระหว่างภาครัฐ จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่ 1. บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนามกับกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้า 2. บันทึกความเข้าใจเพื่อการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองพี่เมืองน้องระหว่างจังหวัดตราด ราชอาณาจักรไทย กับจังหวัดก่าเมา สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม 3. บันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารเวียดนามกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมว่าด้วยความร่วมมือด้านไปรษณีย์สารสนเทศ และการสื่อสาร 4. ความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐสังคมเวียดนามว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม 5. บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งชาติเวียดนามกับธนาคารแห่งประเทศไทย

นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามของภาคเอกชนไทยและเวียดนาม จำนวน 5 ฉบับ ได้แก่ 1. ความตกลงเรื่องค่าธรรมเนียมด้านกฎหมายระหว่างหน่วยงาน General Directorate of Energy ซึ่งลงนามในนามของหน่วยงานและในนามของกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม กับบริษัทการไฟฟ้าฝ่ายผลิต อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท Watson Farley and Williams 2. บันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัท Viet Nam Oil and Gas Group กับบริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด 3. บันทึกความเข้าใจระหว่างบริษัท PetroVietnam Ca Mau Fertlizer JSC บริษัท PetroVietnam Fertlizer and Chemicals Corporation บริษัท Binh Son Refining and Petrochemicals Company Limited กับบริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด4. บันทึกว่าด้วยความเข้าใจระหว่าง SCIC Investment Company Limited (SIC) กับธนาคารกสิกรไทย จำกัด 5. ความตกลงเรื่องความร่วมมือในโครงการลงทุนพลังงานลมบัก เลี่ยว – ก่า เมา ระหว่างบริษัทซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี กรุ๊ป จำกัด กับบริษัท Cong Ty Trach Nhiem Huu Han Xay Dung –Thuong Mai – Du Lich Cong Ly

จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรองอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ณ ตึกสันติไมตรีหลังนอก ทำเนียบรัฐบาล