“กบง.” ควักเงินกองทุนน้ำมันฯ 700 ล้านบาท หนุนใช้บี20 ดูดซับน้ำมันปาล์มดิบได้อีกกว่า 30,000 ตัน

น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน(ธพ.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) ที่มีนายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นประธานเมื่อ 8 พ.ย.ได้เห็นชอบการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 สำหรับรถบรรทุก รถโดยสารสาธารณะ เรือขนส่งจากเดิมถูกกว่าดีเซลปกติ 3 บาทต่อลิตรเป็น 5 บาทต่อลิตร เป็นระยะเวลา 3 เดือนนับตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.61-28 ก.พ.2562 คาดว่าจะใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุนประมาณ 700 ล้านบาท จากปัจจุบันใช้งบประมาณ 10 ล้านบาทต่อเดือน

ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวเพื่อช่วยดูดซับน้ำมันปาล์มดิบ(CPO) ที่ล้นตลาดได้อีกประมาณ 3.13 หมื่นตัน
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวจะเป็นแรงจูงใจให้รถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้องยอมรับว่าผู้ที่จะมาใช้บี 20 จะต้องมีการปรับเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิง และมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ซึ่งมีค่าใช้จ่ายประมาณ 10,000 บาทต่อคัน

ดังนั้นกบง.จึงเพิ่มการชดเชยราคาน้ำมันบี 20 ให้ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้รถบรรทุกที่ใช้บี 20 ได้ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 8 แสนคันหันมาใช้บี 20 ได้ทั้งหมดจากปัจจุบันมีรถบรรทุกใช้เพียง 2,100 คันและเรือ 64 ลำ

“จากการดำเนินมาตรการดังกล่าวในช่วง 3 เดือนนี้ คาดว่าเดือนก.พ.2562 จะมีความต้องการใช้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี 20 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านลิตรต่อเดือน จากขณะนี้ใช้อยู่ที่ 3.5 ล้านลิตรต่อเดือน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีผู้ค้ามาตรา 7 เข้าร่วมโครงการ 8 ราย ประกอบด้วย ปตท., ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก(PTTOR), บางจาก, ไออาร์พีซี, ซัสโก้, พีที, สยามปิโตรเลียม และเชลล์ ซึ่งไม่ได้เป็นการจำหน่ายในปั๊มทั่วไป” นายศิริกล่าว

สำหรับความคืบหน้ามาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 และ95 จำนวน 3 บาทให้กับกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง(วินมอเตอร์ไซค์)ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก และเป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐซึ่งมีประมาณ 4 หมื่นรายนั้น กบง.ครั้งนี้ยังไม่ได้มีการหารือเนื่องจากยังต้องรอให้ธพ.ไปหารือกับกระทรวงการคลังถึงรายละเอียดการดำเนินโครงการโดยเฉพาะรูปแบบของการใช้เงินซึ่งธพ.จะนัดหารือในสัปดาห์หน้า

ดังนั้นโครงการดังกล่าวคงจะไม่สามารถเปิดจำหน่ายได้ทันวันที่ 15 ธันวาคมนี้

“โครงการดังกล่าวเดิมทางปตท.จะนำร่องและช่วยเหลือเงินชดเชยราคาน้ำมัน ซึ่งปตท.ยังไม่ได้ปฏิเสธที่จะดำเนินการแต่กระทรวงพลังงานต้องการหารือรายละเอียดกับคลังให้ชัดเจนก่อนถึงรูปแบบการจ่ายเงินเพราะเกี่ยวข้องกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” น.ส.นันธิกากล่าว