“น้ำอูน-น้ำสงคราม”เริ่มลด แต่นาข้าวยังจมน้ำเสียหายหนักนับแสนไร่กว่า 120 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ถึงแม้สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ลุ่มน้ำก่ำ จะคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ หลังระดับน้ำลดลงต่อเนื่อง และสามารถไหลระบายลงน้ำโขงได้รวดเร็ว เนื่องจากระดับน้ำโขงเริ่มลดลงอยู่ที่ระดับประมาณ 8 เมตร ทำให้ปริมาณน้ำท่วมขังบ้านเรือน รวมถึงนาข้าว ในพื้นที่นาข้าว ในพื้นที่ลุ่มน้ำก่ำลดลง เข้าสู่ภาวะปกติ แต่นาข้าวในพื้นที่ที่ลำน้ำก่ำไหลผ่าน ในพื้นที่ อ.นาแก อ.วังยาง อ.เรณูนคร อ.ธาตุพนม อ.ปลาปาก เสียหายกว่า 70,000 ไร่ และยังมีนาข้าวในพื้นที่ลุ่ม ที่ยังถูกน้ำท่วมขังอยู่ประมาณ 6,000 ไร่

ขณะเดียวกันในส่วนของลุ่มน้ำอูน ลุ่มน้ำสงคราม แม้น้ำสาขาสายหลัก ที่รับน้ำจากพื้นที่ จ.สกลนคร ไหลระบายลงน้ำโขง เริ่มลดระดับเล็กน้อย วันละประมาณ 20 -30 เซนติเมตร ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 12 เมตร ต่ำกว่าปริมาณเก็บกักประมาณ 1 เมตร ถือว่าลดระดับช้า เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังตกค้างในพื้นที่ ต้นน้ำ จ.สกลนคร ยังไหลระบายมาสมทบต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ยังคงต้องนำเรือผลักดันน้ำเร่งระบาย จากประตูน้ำอูน ประตูลำน้ำสงคราม ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม ลงสู่น้ำโขงต่อเนื่องให้เร็วที่สุด เกรงว่าจะมีฝนตกลงมาเพิ่มอีก ทำให้พื้นที่นาข้าว ในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม อ.นาหว้า อ.โพนสวรรค์ อ.นาทม ถูกน้ำท่วมขังเน่าตายมากกว่า 1 แสนไร่ เนื่องจากระดับน้ำท่วมขัง นานเกือบ 1 เดือน

เบื้องต้นทางด้าน จ.นครพนม ยังคงเร่งสำรวจในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ที่มีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย จำนวนทั้งสิ้น 11 อำเภอ จากพื้นที่ทั้งหมด 12 อำเภอ เหลือ 1 อำเภอ ไม่ได้ รับผลกระทบ คือ อ.บ้านแพง มีพื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหายทั้งหมด ประมาณ 2 แสนไร่ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย เป็นวงเงินไม่ต่ำกว่า 120 ล้านบาท อยู่ระหว่างการสำรวจให้ความช่วยเหลือ เยียวยาชดเชย ตามระเบียบทางราชการ

 

ที่มา มติชนออนไลน์