“อุตตม” จับมือเอกชนช่วยกัน Transform ประเทศ มุ่งเป้าใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวปาฐกถาพิเศษในโอกาสเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “Transform เศรษฐกิจไทย ก้าวไกลสู่อนาคต” ซึ่งบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) จัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 12 พ.ย.2561 ว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังก้าวสู่จุดเปลี่ยน โดยมียุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แสดงถึงความพร้อมและโอกาสที่ต่างชาติมองเห็นช่องทางการค้าการลงทุนกับไทย ขณะที่การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น ทุกคนต่างมองไปข้างหน้าว่าประเทศไทยจะเดินต่อไปอย่างไรให้ก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลงโลก

ทั้งนี้ เห็นได้ว่าไทยมีจุดเด่นเรื่องที่ตั้ง ทรัพยากร และกำลังคนเป็นข้อได้เปรียบ เราจึงต้องใช้โอกาสที่มียึดโยงการค้า การลงทุน สร้างหุ้นส่วนกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ทำให้เกิดการสร้างธุรกิจใหม่ด้วยคนรุ่นใหม่ได้ ถือเป็นโอกาสที่ไทยจะก้าวไปข้างหน้า อย่าหยุดนิ่ง เพราะหากเราเปลี่ยนได้เราก็ไปต่อได้ ถ้าเราย่ำอยู่ที่เดิม คนอื่นก็จะแซง

“การ Transfrom ต้องอาศัยความมุ่งมั่นและการรวมพลังกันระหว่างภาครัฐ เอกชน การศึกษา และประชาสังคมทุกภาคส่วน เชื่อว่าเราจะนำพาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้ดีขึ้นได้ โดยต้องอาศัยการเงินและการเมืองเป็นตัวช่วยร่วมกันคิดและทำอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยความหวังจะมีระบบเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง มั่งคั่ง กระจายรายได้ทั่วถึงครอบคลุมทั้งประเทศ ช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำให้ประชาชนเข้าถึงโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของเศรษฐกิจไทยและยืนหยัดอยู่ในเวทีโลกได้”

นอกจากนี้ ไทยแลนด์ 4.0 ที่ต้องก้าวไปข้างหน้า สังคมไทยต้องตื่นรู้ เปลี่ยนจากโครงสร้างเดิมที่พึ่งพาการส่งออกเป็นสร้างความเข้มแข็งในประเทศ โดยดูว่าเราจะผลิตสินค้าอะไร ไทยต้องไม่รับจ้างผลิตสินค้าเท่านั้น แต่ต้องสามารถผลิตสินค้าของเราเองตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ อย่าคิดว่าจะออกไปจากเกษตรเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรมและบริการ โดยใช้จุดเด่นภาคเกษตรของไทยต่อยอดใช้เทคโนโลยีผสมผสานอย่างลงตัว ยกระดับตลาด การผลิต การเพิ่มมูลค่า และถอยมาต้นทางว่าจะปลูกจะเพาะอย่างไร

นายอุตตมกล่าวว่า อาทิ นโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมไบโอชีวภาพ โดยนำเกษตรต้นทางไปสู่สินค้าคุณภาพสูงที่ไทยมีความพร้อมด้านวัตถุดิบที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ หรือสตาร์ตอัพ (Startup) อาจไม่ใช่เด็กรุ่นใหม่ แต่อาจหมายถึงกลุ่มคนที่มีประสบการณ์แล้วออกจากงานมาทำอะไรใหม่และผู้ประกอบการรายย่อยทุกคน (เอสเอ็มอี) ทั่วประเทศที่มีกว่า 5 ล้านราย แต่มีตัวตนลงทะเบียนเพียง 6 แสนราย จึงเกิดคำถามว่า เอสเอ็มอีไทยพร้อมหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลจะเข้าไปสนับสนุน

นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในช่วงที่สถานการณ์การเมืองของไทยกำลังเปลี่ยนผ่าน อยากให้ช่วยกันประคองสถานการณ์ เชื่อว่าเราจะผ่านไปได้ด้วยการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่นักลงทุนสนใจ แต่การจะสร้างความเชื่อมั่นได้จริงอยู่ที่การเมืองสงบ เพราะไม่มีนักลงทุนคนไหนอยากอยู่ในดินแดนไม่สงบสุข

และในช่วงเสวนาเชิงนโยบาย Transform ประเทศไทย : คนทำธุรกิจคาดหวังอะไร? โดยนายชาญกฤช เดชวิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออก กล่าวว่า เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถือเป็นโอกาสและความท้าทายของนักลงทุนที่ ว่าพื้นที่จะมีการพัฒนาอย่างไร และ EEC ยังเป็นที่ที่จะดึงการลงทุนจาก 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายมาลงทุน บวกกับที่รัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวถูกพัฒนาขึ้นไปด้วย ซึ่งจะทำเศรษฐกิจ GDP โตได้ถึง 5%

ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ ผู้อำนวยการและผู้ร่วมก่อตั้งอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัย กล่าวว่า บทบาทของมหาวิทยาลัย ต่อจากนี้จะต้องเป็นแหล่งเทคโนโลยี เพื่อที่จะ Transform คู่ไปกับการพัฒนาประเทศ

นายชิต เหล่าวัฒนา ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กล่าวว่า ปี 2562 เรื่องของ 5G เป็นเทคโนโลยีที่จะเข้ามาพัฒนาประเทศเรา ดังนั้นภาคธุรกิจจำเป็นที่ต้องใช้เทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้

นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท หลักทรัพย์ CLSA การ Transform จริงๆ ของประเทศรัฐบาลจำเป็นต้องมีความพยายามลดความเหลื่อมล้ำ เนื่องจากระบบทุนนิยมไม่สามารถกระจายรายได้ไปสู่เศรษฐกิจฐานรากได้ ขณะที่รัฐบาลก็ต้อง Transform เช่นกันโดยเฉพาะของกฎหมาย แข่งขัน ความคิด


นายโอฬาร วีระนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ดุเรียน คอร์ปปอเรชั่น กล่าวว่า ตนถือเป็น Start up Man เริ่มลงทุนตั้งแต่ 1 ล้านบาท มีการระดมทุนเรื่อยๆ จนปัจจุบันอยู่ที่ 100 ล้านบาท ในเวลาเพียง 6 เดือน ขณะนี้ SMEs มีปัญหาของรายเล็กคือเรื่องการเข้าแหล่งเงินทุน การใช้เทคโนโลยี และการขายผ่านช่องทางออนไลน์ คือสิ่งที่บอกว่าทำให้ธุรกิจอยู่รอด ไม่ใช่แค่ว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดีเท่านั้น และเอกชนจะต้องพึ่งพาตัวเองมากขึ้น