“เจดับเบิ้ลยูดี” ประเมินธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยปีนี้มีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท จ่อผนึก CJ Logistics ขยายฐานลูกค้า

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือเจดับเบิ้ลยูดี ผู้นำธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ เปิดเผยว่า คาดว่าในปีนี้ภาพรวมธุรกิจอีคอมเมิร์ชในประเทศไทยจะมีมูลค่าตลาดรวมกว่า 3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 2.8 ล้านล้านบาท โดยเป็นการเติบโตตามการขยายตัวของเทรนด์การสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อความต้องการใช้บริการด้านโลจิสติกส์ของผู้ประกอบการด้านอีคอมเมิร์ช

โดยบริษัทจะร่วมทุนกับ CJ Logistics ภายใต้บริษัท ซีเจแอล เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียนเริ่มต้นที่ 2 ล้านบาท โดยบริษัทร่วมทุนดังกล่าวทาง CJ Logistics Thailand ถือหุ้น 51% และ JWD ถือหุ้น 49% โดยการร่วมทุนกันครั้งนี้ บริษัทต้องการขยายธุรกิจการให้บริการโลจิสติกส์แบบ B2C ไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ในธุรกิจอีคอมเมิร์ชที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

“ปัจจุบัน CJ Logistics ถือว่าเป็น 1 ใน 4 ผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบ B2C รายใหญ่ในประเทศไทย ขณะที่เจดับเบิ้ลยูดี มีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจโลจิสติกส์มาเกือบ 40 ปี โดยมีความเชี่ยวชาญการให้บริการโลจิสติกส์ B2B แบบครบวงจร จึงเชื่อว่าการร่วมทุนกัน จะสามารถนำจุดแข็งของแต่ละฝ่ายมาเสริมความแข็งแกร่งเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าการแข่งขันให้บริการโลจิสติกส์แก่ธุรกิจอีคอมเมิร์ชมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น แต่เชื่อว่าผู้ที่สามารถให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างครอบคลุมทุกพื้นที่ จัดส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งมีเทคโนโลยีในการบริหารจัดการการสั่งสินค้า จะเป็นผู้ได้เปรียบในการแข่งขัน” นายชวนินทร์กล่าว

Mr.Shon Kwan Soo ผู้บริหาร CJ Logistics Corporation ผู้ให้บริการด้านการขนส่งและโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้ ครองสัดส่วนมากกว่า 50% เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมทุนกับบริษัท เจดับเบิ้ลยูดี อินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือเจดับเบิ้ลยูดี เพื่อนำองค์ความรู้และจุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกันขยายฐานธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจบีทูบี และธุรกิจอีคอมเมิร์ชในประเทศไทย ที่กำลังเติบโตและมีแนวโน้มขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์แก่กลุ่มลูกค้าดังกล่าวที่มีดีมานด์เพิ่มขึ้น


ที่มา มติชนออนไลน์