“ไทย-ยูเรเชีย” เดินหน้าตกลงขยายความร่วมมือการค้า การลงทุนระหว่างกัน พร้อมไปสู่การทำ FTA ในอนาคต

ไทย-ยูเรเชีย พร้อมเดินหน้าตกลงขยายความร่วมมือการค้า การลงทุนระหว่างกัน หลังลงนามบันทึกความร่วมมือ เตรียมแลกเปลี่ยนข้อมูลในทุกด้าน พร้อมไปสู่การทำ FTA ในอนาคต

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนางทัตยานา วาโลวายา รัฐมนตรีด้านการบูรณาการและเศรษฐกิจมหภาคของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจยูเรเซีย เข้าหารือ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2561 ว่า ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงการขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างกันโดยทันที หลังจากที่ได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือระหว่างไทยกับคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจยูเรเชีย (EAEU) โดยทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการค้า เพื่อให้เกิดความเข้าใจในนโยบายและกฎระเบียบทางการค้าของกันและกันมากขึ้น เช่น ทรัพย์สินทางปัญญา การแข่งขันทางการค้า มาตรการเยียวยาทางการค้า การคุ้มครองผู้บริโภค มาตรการสุขอนามัยพืชและสัตว์ กฎระเบียบทางเทคนิค และกฎระเบียบด้านการลงทุน เป็นต้น

“การลงนามความร่วมมือดังกล่าว เป็นจุดเริ่มต้นครั้งสำคัญในการยกระดับความร่วมมือ และกระชับความสัมพันธ์ไทย-ยูเรเชียให้แนบแน่นมากยิ่งขึ้น เพื่อมุ่งขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับประเทศสมาชิก EAEU เพิ่มโอกาสในการดึงดูดให้นักลงทุนของ EAEU เข้ามาลงทุนในระเบียบเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเพิ่มโอกาสไทยในการใช้ประโยชน์จากหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (OBOR) ของจีนที่เชื่อมระหว่างเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา ซึ่งมีสมาชิก EAEU อยู่บนเส้นทางนี้ รวมทั้งยังจะช่วยปูทางไปสู่การทำ FTA ระหว่างกันในอนาคตด้วย”

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันโดยเร็ว ในปี 2562 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีแผนที่จะผนึกกำลังกับสถานทูตของประเทศยูเรเชียในไทยจัดสัมมนา เรื่อง “Eurasian Economic Union : EAEU-in-Action” ในเดือนมี.ค.2562 เพื่อเชิญผู้เชี่ยวชาญจาก EAEU มาบรรยายให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการไทย ก่อนที่จะนำคณะนักธุรกิจไทยเยือนประเทศ EAEU ได้แก่ เมืองวลาดีวอสตอค ประเทศรัสเซีย ในช่วงเดือนส.ค.2562 เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าของไทย และเพื่อต่อยอดธุรกิจในรัสเซียและเอเชียกลาง โดยมีสินค้าเป้าหมาย เช่น อาหาร เครื่องสำอาง สมุนไพร และวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น

นอกจากนี้ ไทยยังได้เชิญชวนให้ EAEU นำคณะนักธุรกิจเยือนไทยและพิจารณาลงทุนใน EEC ในสาขาที่ประเทศสมาชิก EAEU มีความเชี่ยวชาญ และสอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย (S-curve) เช่น อุตสาหกรรมดิจิตัล โดยเฉพาะด้านซอฟแวต์ อากาศยาน ระบบขนส่งทางราง เครื่องจักรและอุปกรณ์ เทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี

สำหรับ EAEU เป็นการรวมกลุ่มสหภาพศุลกากรของสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย คาซัคสถาน เบลารุส อาร์เมเนีย และคีร์กีซสถาน ปัจจุบันเป็นคู่ค้าลำดับที่ 27 ของไทย มีมูลค่าการค้าในปี 2560 มูลค่า 3,318 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 58.91% โดยไทยส่งออก 1,099 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้า 2,190 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนช่วง 9 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ก.ย.) มีมูลค่าการค้า 2,794.07 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 26.59% โดยไทยส่งออก 941.84 ล้านเหรียญสหรัฐ นำเข้า 1,852.53 ล้านเหรียญสหรัฐ

ในด้านการลงทุน ปี 2560 ประเทศสมาชิก EAEU มีการลงทุนในไทย 376 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีโครงการที่ยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI จำนวน 2 โครงการ มูลค่า 2,713 ล้านบาท สำหรับธุรกิจรายสำคัญที่เข้ามาลงทุนในไทย คือ บริษัทไทยสเตอร์เจียน (ร่วมทุนไทย-รัสเซีย) ธุรกิจการทำฟาร์มเลี้ยงปลาสเตอร์เจียนและผลิตไข่ปลาคาเวียร์ มูลค่า 57 ล้านบาท เป็นต้น