ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า หลังจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดตัวเลขเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3/2561 ขยายตัว 3.3% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ และชะลอตัวจากไตรมาส 2/2561 ที่ขยายตัวถึง 4.6% พร้อมปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยทั้งปี 2561 มาที่เติบโต 4.2%
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งมีหอกาค้าไทยร่วมด้วยนั้น ยังไม่ปรับตัวเลขประมาณการ GDP ปีนี้ เนื่องจากมองว่าในอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบในช่วงไตรมาส 3 คือ ส่งออกและท่องเที่ยว กลับมามีสัญญาณที่ดีแล้วในไตรมาสนี้ ทั้งยังมีแนวโน้มบรรยากาศที่ดีขึ้นในหลายส่วน จึงยังคงประมาณการ GDP ไว้ที่ 4.4 – 4.8% ตามเดิม
“บรรยากาศระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มที่ดูดีขึ้น การลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากหลายส่วน ทั้งจากที่ย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย เพื่อให้ค้าขายได้สะดวกขึ้นในหลายธุรกิจ ขณะที่ฝั่งจีนและญี่ปุ่นกำลังมองหาประเทศที่ 3 ที่จะเข้าไปลงทุน จึงเป็นจังหวะที่ดีที่ไทยจะเสนอตัวเข้าเป็นทางการเลือก เพราะ EEC เองก็มีความชัดเจนเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้นแล้ว ทั้งกำลังเตรียมจะยกร่างเซาเทิร์น คอริดอร์ ให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างภายใน 2 – 3 เดือนนี้”
นอกจากนี้ทางหอการค้ากับรวบรวมข้อเสนอจากการลงพื้นที่สำรวจการค้าชายแดนเพื่อให้รัฐบาลพิจารณาหาทางเจรจาเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนให้ราบรื่นและเติบโตได้ดีขึ้น อาทิ ข้อเสนอในการเจรจากับประเทศลาวให้มีอัตราภาษีในเส้นทาง R3A เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ภาคเอกชนคำนวณต้นทุนได้ง่ายขึ้น การเจรจาให้การขนส่งทางเรือระหว่างไทย-จีน ไม่ถือเป็นการค้าชายแดน ซึ่งจะช่วยลดภาษีได้ราว 13%
