ค้าต่างประเทศเผยการค้าชายแดนและผ่านแดน 10 เดือนของปี 61 มูลค่า 1.15 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.04%

ค้าต่างประเทศเผยการค้าชายแดนและผ่านแดน 10 เดือนของปี 61 มูลค่า 1.15 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.04% คาดอีก 2 เดือน หากทำได้เฉลี่ยเดือนละกว่า 1 แสนล้าน ยอดทั้งปีจะอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท โต 7.7% ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ 1.55 ล้านล้านบาท

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนของไทยในช่วง 10 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่า 1,155,736 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่ทะลุ 1 ล้านล้านบาทแล้ว เพิ่มขึ้น 6.04% โดยเป็นการส่งออก 648,478 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.11% และการนำเข้า 507,259 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.73% เกินดุลการค้า 141,219 ล้านบาท แยกเป็นมูลค่าการค้าชายแดน 931,679 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เป็นการส่งออก 540,580 ล้านบาท ลดลง 0.33% นำเข้า 391,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.63% เกินดุลการค้า 149,482 ล้านบาท และมูลค่าการค้าผ่านแดน 224,057 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.47% เป็นการส่งออก 107,897 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.33% นำเข้า 116,160 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.11% ขาดดุลการค้า 8,263 ล้านบาท

ทั้งนี้ การค้าชายแดนเมื่อแยกเป็นรายประเทศ พบว่า มาเลเซียยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทยมีมูลค่าการค้ารวม 476,492 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.90% แบ่งเป็นการส่งออก 246,227 ล้านบาท ลดลง 6.24% นำเข้า 230,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.84% ตามด้วย สปป.ลาว มูลค่า 177,043 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.93% เป็นการส่งออก 107,628 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.05% นำเข้า 69,415 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.56% เมียนมา มูลค่า 160,186ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.23% เป็นการส่งออก 88,090 ล้านบาท ลดลง 2.87% นำเข้ามูลค่า 72,096 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.17% และกัมพูชา มูลค่า 117,958 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.87% เป็นการส่งออก 98,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.46% นำเข้า 19,322 ล้านบาท ลดลง 4.08%

“ปัจจัยที่ทำให้การส่งออกของไทยไปมาเลเซียลดลง มาจากการส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางพารา และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ไปมาเลเซียได้ลดลง เพราะมาเลเซียนำเข้าลดลงจากปัญหาสงครามการค้าที่ทำให้มีความต้องการนำเข้าวัตถุดิบไปผลิตต่อลดลง ส่วนเมียนมาลดลงเพราะปัญหาอุทกภัยเพิ่งคลี่คลาย และยังมีปัญหาเรื่องค่าเงินจ๊าตที่อ่อนค่า ทำให้ผู้นำเข้าชะลอการนำเข้า เพราะต้นทุนเพิ่ม แต่เชื่อว่าจะดีขึ้น ขณะที่สปป.ลาว และกัมพูชา ยังส่งออกได้ดี” นายอดุลย์กล่าว

ส่วนการค้าผ่านแดน พบว่าจีนตอนใต้เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่ง มีมูลค่ารวม 83,828 ล้านบาท เพิ่ม 22.77% แยกเป็นส่งออก 28,068 ล้านบาท เพิ่ม 0.69% นำเข้า 55,760 ล้านบาท เพิ่ม 38% โดยคาดว่าแนวโน้มการส่งออกจะดีขึ้น หลังเส้นทางขนส่งผ่านสปป.ลาวไปยังจีนตอนใต้ดีขึ้น ขณะที่สิงคโปร์ มีมูลค่า 74,912 ล้านบาท เพิ่ม 21.42% แยกเป็นส่งออก 32,215 ล้านบาท เพิ่ม 20.34% นำเข้า 42,696 ล้านบาท เพิ่ม 22.25% และเวียดนาม มูลค่า 65,318 ล้านบาท เพิ่ม 1.97% แยกเป็นส่งออก 47,614 ล้านบาท ลดลง 6.26% ซึ่งลดลงจากการส่งออกผลไม้ได้ลดลง เพราะเป็นช่วงนอกฤดูกาล รวมถึงส่งออกเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ลดลง และนำเข้า 17,704 ล้านบาท เพิ่ม 33.47%

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังคงมั่นใจว่าการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนของปี 2561 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่ทำได้ประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท โดยหากในช่วง 2 เดือนที่เหลือ (พ.ย.-ธ.ค.) ทำได้เฉลี่ยเดือนละกว่า 1 แสนล้านบาท จะทำให้มูลค่าทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 7.7% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 1.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% เพราะเป็นการตั้งเป้าไว้สูง ตั้งเป้าไว้ทำงาน และระหว่างปีก็มีเหตุการณ์กระทบการค้าต่อเนื่อง ทั้งน้ำท่วมในสปป.ลาว เมียนมา สงครามการค้า แต่แม้จะต่ำกว่าเป้าหมาย ก็ถือว่ายังผลักดันให้การค้าเติบโตได้ดีอยู่ ส่วนเป้าหมายปี 2562 จะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการค้าชายแดนและการลงทุนกับประเทศเพื่อนบ้านในเดือนธ.ค.2561 เพื่อพิจารณาก่อน โดยคาดว่าเป้าหมายจะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้