นายธนวรรธน์ พลวิชัย รองอธิการบดีอาวุโสวิชาการและงานวิจัย และผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงมาตรการช้อปช่วยชาติว่า ในเชิงเศรษฐกิจมีสัญญาณรอการฟื้นตัว เห็นจากตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 3 ยังชะลอ ดังนั้นมาตรการช้อปช่วยชาติควรให้เอสเอ็มอีและธุรกิจทั่วไปได้รับประโยชน์ โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจต่างจังหวัด เพราะปัญหาเศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจต่างจังหวัดยังไม่ฟื้นตัวดังนั้นหากรัฐจะออกมาตรการอะไรมาควรให้เศรษฐกิจที่พึ่งพึงสินค้าเกษตรและธุรกิจในต่างจังหวัดได้รับผลประโยชน์
“เศรษฐกิจไทยขณะนี้ กลุ่มส่งออก กลุ่มธุรกิจขนาดกลาง ขนาดใหญ่สามารถประคองตัวได้ แต่ธุรกิจที่มีปัญหาคือในกลุ่มต่างจังหวัด ดังนั้นมาตากรช้อปช่วยชาติควรทำให้ให้ทุกคนเข้าถึงโอกาสดังกล่าว และไม่ควรจำกัดเฉพาะให้ใช้ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ รวมถึงต้องรณรงค์ให้กลุ่มธุรกิจเหล่านี้เข้าถึงฐานใบกำกับภาษี และให้มาตรการออกมานั้นช่วยเหลือทุกกลุ่มไม่เฉพาะให้ธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น”นายธนวรรธน์ กล่าว
“ในปีหน้าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มโตในระดับ 4-4.5% แต่ในกลุ่มเอสเอ็มอีมีแนวโน้มว่ายังรอการฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ ดังนั้นอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปอีก 6 เดือน หรือจนกว่าจะผ่านพ้นเลือกตั้งไปแล้ว เนื่องจากมองว่าหลังเลือกตั้งน่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น เศรษฐกิจโลกดีขึ้นส่งผลให้ยอดขายหรือคำสั่งซื้อจะมากขึ้น ดังนั้นหากเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยจะทำให้เอสเอ็มอีได้รับผลกระทบต้นทุนสูงขึ้น”นายธนวรรธน์ กล่าว
