ตลาดอาหารเวียดนามโตกระฉูด ปีละ 20% มูลค่า 1.73 แสนล้าน ‘ซี.พี.เวียดนาม’ครองตลาดไก่เบอร์ 1 ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดทะลุ 40% ปี’62 พร้อมส่งอาหารสำเร็จรูปชิงแชร์อีก 50 เมนู เร่งปูพรมขยายสาขา 5 ดาว -ร้านซี.พี.เฟรชมาร์ท รับกระแสคนรุ่นใหม่
นายสุพัฒน์ ศรีธนาธร รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ธุรกิจอาหารแปรรูป เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอาหารในเวียดนามมีการเติบโตปีละ 20% โดยในปีที่ผ่านมาตลาดนี้มีมูลค่า 173,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี)เวียดนามเติบโตเฉลี่ย 6% มาตลอดระยะเวลา 8 ปี จำนวนประชากรเวียดนามที่มี 95 ล้านคน ซึ่งในจำนวน 60% เป็นประชากรที่อยู่ในวัยทำงาน ทำให้เทรนด์ของธุรกิจอาหารเติบโตได้ดี รวมถึงจำนวนร้านอาหาร และร้านกาแฟที่มีเพิ่มขึ้น
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ซี.พี. มีส่วนแบ่งตลาดในส่วนของสินค้าไก่สด 32% เป็นเบอร์ 1 ของกลุ่มผู้ผลิตไก่สดบรรจุถุงมีแบรนด์ และมีเป้าหมายจะขยายเป็น 40% ในปีหน้า ส่วนผลิตภัณฑ์ไส้กรอกมีส่วนแบ่งตลาด 25% มีเป้าหมายจะขยายเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในปีหน้า โดยสินค้านี้ทางซี.พี.ยังเป็นเบอร์ 2 รองจาก VISSAN แบรนด์ที่ผลิตโดยบริษัทเวียดนาม ตลาดอาหารในประเทศเวียดนามเริ่มนิยมอาหารปรุงสุกพร้อมทาน ซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น ดังนั้น บริษัทเตรียมวางจำหน่ายอาหารพร้อมทานจำพวกติ่มซำ อาหารกล่อง ซูชิ อาหารแปรรูปและอื่นๆ ประมาณ 50 เมนูในเดือนมี.ค.2562 ซึ่งนับเป็นการเปิดตลาดอาหารประเภทปรุงสุกพร้อมทานครั้งแรกในเวียดนาม ตั้งเป้าหมายยอดขายส่วนนี้จะอยู่ที่ 1,500 ตันต่อปีในปีแรก
ในด้านกลยุทธ์การทำการตลาดในประเทศนั้น จะมุ่งเน้นการกระจายสินค้าเข้าร้านโชวห่วยให้มากที่สุด โดยปัจจุบันจำหน่ายผ่านร้านโชวห่วยประมาณ 70% และโมเดิร์นเทรด 30% เนื่องจากจำนวนร้านโชวห่วยยังมีมากถึง 200,000-300,000 แห่ง เทียบกับจำนวนร้านโมเดิร์นเทรดภาพรวมทุกประเภทที่มีปริมาณ 5,000 จุด ซึ่งในส่วนนี้รวมมทั้งคอนวีเนียลสโตร์ที่มี 3,000 สาขา
ส่วนร้านซี.พี.เฟชมาร์ทมีอยู่ประมาณ 8 สาขาในปัจจุบัน ล่าสุดทางบริษัท มีแผนจะพัฒนาและปรับปรุงแบรนด์และเพิ่มจำนวนสาขาอีก 10 สาขา รวมเป็น 18 สาขา ซึ่งจะเป็นการลงทุนเองทั้งหมด คาดว่าจะใช้เม็ดเงิน 500,000-800,000 บาทต่อสาขา ซึ่งแต่ละสาขาจะต้องจำหน่ายให้ได้ 30,000 บาทต่อวัน จึงจะอยู่ด้วยกันได้ หลังจากประสบความสำเร็จมีแผนจะขยายแฟรนไชส์ นอกจากนี้ยังมีแผนขยายฐานธุรกิจร้านอาหาร 5 ดาว โดยการปรับปรุงและพัฒนาเพิ่มสินค้า/ผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แบรนด์ 5 ดาวที่มีจำนวน 650 สาขาทั่วประเทศ ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 800 สาขาภายในปี 2562
ในด้านการผลิตปัจจุบันมีโรงงานอาหารแปรรูปซี.พี. ฮานอย ฟู้ด โปรเซสซิ่ง แฟคตอรี่ปีหน้ามีแผนขยายกำลังการผลิตไส้กรอกจาก 900 ตัน ต่อเดือนเป็น 1,200 ตันต่อเดือน ขณะที่โรงงานไก่ปัจจุบันโรงงานซี.พี.ที่ฮานอย เป็นโรงงานที่มีกำลังการผลิตไก่ 60,000 ตัวต่อวัน แต่ยังใช้กำลังการผลิต 50% ปริมาณ 30,000 ตัวต่อวัน มีแผนจะขยายกำลังการผลิตเป็น 40,000 ตัวต่อวันในปีหน้า และจะขยายให้ครบ 60,000 ตัวภายใน 2 ปี
ทั้งนี้ โรงงานนี้จะมีการชำแหละไก่ และดึงไก่สัดส่วน 30% มาแปรรูปเป็นไส้กรอก ขณะที่อีก 70% ขายภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเตรียมการส่งออกผลิตภัณฑ์ไส้กรอก เพราะได้รับการรับรองมาตรฐานจากตลาดญี่ปุ่น