ส่งออกแป้งมันปีหน้าผ่านฉลุย ทะลุ 5 ล้านตัน-แข่งแป้งข้าวโพดได้ดีขึ้น

ผู้ส่งออกแป้งมันมั่นใจดันส่งออกปีེ ทะลุ 5 ล้านตัน จากปัจจัยผลผลิตดีขึ้น-โรคใบด่างกระทบผลผลิตคู่แข่งเวียดนาม-กัมพูชาเสียหายอื้อ

นายบุญมี วัฒนเรืองรอง เลขานุการสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย เปิดเผยว่า ทิศทางการส่งออกแป้งมันสำปะหลังของประเทศไทยในปี 2562 คาดการณ์ว่าการขยายตัวไปในทิศทางที่ดีใกล้เคียงกับปีนี้ ทั้งในรูปแบบแป้งดิบและแป้งที่ถูกดัดแปร หรือแป้งที่แปรรูปเป็นสินค้าประเภทต่าง ๆ แล้ว เนื่องจากประเทศผู้ผลิตมันสำปะหลังอย่างเวียดนาม กัมพูชาได้รับผลกระทบเรื่องของโรคใบด่าง ส่งผลให้การผลิตน้อยลง ขณะที่ประเทศไทยยังไม่ได้มีผลกระทบในเรื่องนี้มากนัก ส่งผลให้การส่งออกแป้งมันสำปะหลังในบางตลาดขยายตลาดดีขึ้น เช่น ตลาดจีน

ทั้งนี้ โดยปกติไทยผลิตแป้งมันสำปะหลังเฉลี่ย 6 ล้านตันต่อปี ซึ่งจะเป็นการส่งออกปริมาณ 4-5 ล้านตัน ส่วนที่เหลือเป็นการใช้ในประเทศประมาณ 1.5 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม ก็ยังต้องติดตามผลผลิตอีกครั้งเนื่องจากผลผลิตปี 2561/2562 ที่อยู่ในช่วงที่กำลังออกสู่ตลาด โดยผลผลิตจะมากสุดในช่วงปลายปี

ขณะที่สัดส่วนการส่งออกระหว่างแป้งดิบและแป้งดัดแปร การส่งออกแป้งดัดแปรก็ประมาณ 1 ใน 4 ของการส่งออกแป้งมันทั้งหมด ส่วนระดับราคาแป้งแต่ละชนิดก็ขึ้นอยู่กับการแปรรูปผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่สามารถส่งออกได้และที่สร้างมูลค่าเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม ตลาดนำเข้ามีบางตลาดที่ปรับตัวลดลง เช่น ตลาดอินโดนีเซีย จากผลกระทบที่ราคาแป้งมันสำปะหลังของไทยยังคงราคาสูง แต่ไม่ใช่ทุกตลาด เช่น ญี่ปุ่น ก็ยังขยายตัวดี ส่วนการส่งออกไปในตลาดสหรัฐและยุโรปก็ยังทรง ๆ ตัว โดยเฉพาะยุโรป เนื่องจากเรื่องของภาษีนำเข้าที่ยังคงสูง และตลาดอื่น ๆ เอเชีย จีน ก็ปรับตัวดีขึ้น ส่วนปัจจัยอื่นที่ทางผู้ส่งออกแป้งมันยังคงเป็นห่วงเรื่องของผลผลิต ส่วนค่าเงินบาท หรือตลาดผู้นำเข้า ยังมีหลายปัจจัยที่สนับสนุนให้การส่งออกโต รวมไปถึงผู้ประกอบการมีการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ในด้านราคาส่งออกในช่วงที่ผ่านมา พบว่าจากราคาแป้งมันไทยราคาสูงขึ้นทำให้หลายตลาดนำเข้าลดลง แต่ล่าสุดจากการคาดการณ์ปริมาณผลผลิตมันสำปะหลังของไทยในปีการผลิต 2561/2562 คาดว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นถึงปริมาณ 30 ล้านตัน จากอดีตที่ปรับตัวลดลงเหลือ 27-28 ล้านตัน

เนื่องจากเกษตรกรหันไปปลูกพืชชนิดอื่นที่ขายได้ราคามากขึ้น เช่น ยางพารา ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น เป็นสาเหตุทำให้ผลผลิตมันสำปะหลังลดลง มีผลทำให้ราคาแป้งมันปรับตัวสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ และทำการแข่งขันก็ลำบาก โดยเฉพาะกับสินค้าที่สามารถทดแทนกันได้อย่างแป้งข้าวโพด ซึ่งราคาเฉลี่ยของสองสินค้าห่างกันมาก ก็ส่งผลให้ผู้นำเข้าหันไปใช้แป้งข้าวโพดทดแทนนำเข้าแป้งมัน

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ผลผลิตของไทยปรับตัวดีขึ้น ทำให้ราคาแป้งมันของไทยปรับราคาลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 455 เหรียญสหรัฐต่อตัน จากเดิมที่เคยสูงถึง 500 เหรียญสหรัฐต่อตัน เนื่องจากปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจนส่งผลให้ราคาแป้งมันกับราคาแป้งข้าวโพดห่างกันประมาณ 100 เหรียญสหรัฐต่อตัน และเชื่อว่าราคาน่าจะปรับลดลงอีก ซึ่งจะทำให้ระยะห่างของราคาสินค้าทั้งสองชนิดไม่ต่างกันมาก ซึ่งคาดหวังจะห่างไม่เกิน 20-30 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งจะทำให้การส่งออกแป้งมันของไทยขยายตัวดีขึ้น

“การที่ราคาของแป้งมันกับแป้งข้าวโพดราคาห่างกันมากย่อมมีผลกระทบต่อภาคการส่งออกแป้งมันของไทย จะทำให้แข่งขันลำบาก ผู้นำเข้าจะหันไปนำเข้าสินค้าที่ทดแทนกันได้ แต่ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นจากปัจจัยด้านผลผลิต ประกอบกับประเทศผู้ผลิตมีปัญหาเรื่องของโรคในมันสำปะหลัง คาดว่าภาพการส่งออกแป้งมันของไทยจะปรับตัวดีขึ้น”

รายงานจากสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทยระบุว่า เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2561 ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลัง ตันละ 455 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นราคาแป้งในประเทศ กก.ละ 14.20 บาท ปรับลดลงจากเดือนพฤษภาคมซึ่งเป็นเดือนที่ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลังปรับขึ้นไปสูงสุด ตันละ 555 เหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นราคาแป้งมันสำปะหลังในประเทศที่ กก.ละ 16.50 บาท

ทั้งนี้ ในเดือนตุลาคม 2561 ไทยมีการส่งออกแป้งมันสำปะหลังปริมาณ 317,633 ตัน และแป้งแปรรูป (โมดิฟายสตาร์ช) ปริมาณ 94,471 ตัน ส่งผลให้ในช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) มีการส่งออกแป้งมันสำปะหลัง 2,398,966 ตัน และแป้งแปรรูป (โมดิฟายสตาร์ช) ปริมาณ 854,554 ตัน

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
.
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!