กนอ.เก็บเงินเข้ากองทุน EEC จ่ายทันทีผู้ชนะประมูลท่าเรือมาบตาพุด3

กนอ. ไม่รอช้า เตรียมเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนพัฒนา EEC จากผู้ชนะประมูลท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 อัตรา 1% ของมูลค่าโครงการ 12,900 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 5 ปี ขณะที่ EEC เร่งยกร่างระเบียบตั้งกองทุนให้ทันผู้ชนะประมูล ก.พ.ปี”62

น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” หลังจากที่ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีผลบังคับใช้ ได้กำหนดให้มีการตั้ง “กองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” ขึ้นมานั้น ในฐานะที่ กรอ.เป็นผู้รับผิดชอบโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ซึ่งมีผู้ซื้อซองประมูลไปทั้งหมด 18 ราย และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ก็จะได้นักลงทุนเอกชนที่ผ่านการคัดเลือก

ตามขั้นตอนต่อจากนี้นักลงทุนก็จะเริ่มดำเนินการเคลียร์พื้นที่เตรียมการก่อสร้างท่าเรือ และในขณะเดียวกันก็จะต้องเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนพัฒนา EEC ในอัตราร้อยละ 1 ของมูลค่าโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดวงเงิน 12,900 ล้านบาท หรือ 129 ล้านบาท/ปีทันทีนับตั้งแต่วันที่เริ่มสร้าง (2562-2567) ตลอด 5 ปีจนกว่าจะก่อสร้างโครงการช่วงที่ 1 เสร็จ โดยช่วง 3 ปีแรกจะเริ่มงานโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) ได้แก่ งานถมทะเล, งานขุดลอกร่องน้ำเดินเรือ, งานก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น, การก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค และอีก 2 ปีจะเป็นการก่อสร้างส่วนท่าเทียบเรือบนพื้นที่ถมทะเล (superstructure)

“ในหลักการแม้ว่ากองทุน EEC ยังอยู่ระหว่างการยกร่างเพื่อกำหนดอัตราการเก็บเงินกองทุนที่ชัดเจน แต่ส่วนของโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ซึ่งเราเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดูแล ก็ได้กำหนดอัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนไว้ก่อนแล้ว ซึ่งก็จะไประบุไว้ในระเบียบต่อไป ส่วนโครงการอื่น ๆ ต้องรอดูว่าจะคิดอัตราเก็บเงินเท่าไร ซึ่งก็อาจเท่ากันหรือไม่เท่ากันตามแต่ละประเภทของโครงการและระยะเวลาการเก็บเงินเข้ากองทุนก็ได้ ตรงนี้ต้องมาดูว่าแต่ละโครงการใช้เวลาก่อสร้างกี่ปี อย่างท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 ช่องที่ 1 ของเราก่อสร้าง 5 ปีเท่านั้น” น.ส.สมจิณณ์กล่าว

ด้านนายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ด้านการลงทุนอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า กองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ยังอยู่ในขั้นตอนของการยกร่างระเบียบเพื่อกำหนดหลักการต่าง ๆ ในการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุน เช่น อัตราเรียกเก็บจะต้องพิจารณาหรือคำนวณจากธุรกิจที่มีรายได้มากหรือน้อย สัดส่วนเท่าไร เก็บตามพื้นที่ เก็บตามประเภทของธุรกิจ หรือตามแต่ละโครงการ เป็นต้น

ทั้งนี้ กองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ภายใต้มาตรา 61 กำหนดให้จัดตั้งกองทุนขึ้นมากองทุนหนึ่งในสำนักงานเรียกว่า “กองทุนพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นทุนสนับสนุนการพัฒนาพื้นที่ ชุมชน และประชาชน ที่อยู่ภายในหรือที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก โดยกองทุนจะประกอบไปด้วย 6 ส่วน ได้แก่

เงินสนับสนุนจากรัฐบาลจัดสรรให้ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะขอสนับสนุนจากรัฐบาล 1,000 ล้านบาท, เงินบำรุง, เงินสมทบจากรายได้ของสำนักงาน, เงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคให้, เงินหรือทรัพย์สินอื่นที่ตกเป็นของกองทุน, ดอกเบี้ยหรือผลประโยชน์ใด ๆ ที่เกิดจากเงินหรือทรัพย์สินของกองทุน ซึ่งเงินและทรัพย์สินที่เป็นของกองทุนไม่ต้องนําส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ

ขณะที่มาตรา 63 กำหนดให้สํานักงานเป็นผู้รับเงิน จ่ายเงิน เก็บรักษา และบริหารจัดการเงินกองทุนแยกออกจากงบประมาณของสํานักงาน ในส่วนของการรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษา และการบริหารจัดการเงินกองทุนนั้นให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการนโยบายกําหนด มาตรา 64 กำหนดว่าเงินกองทุนให้ใช้จ่ายเพื่อกิจการดังต่อไปนี้

1) เพื่อการพัฒนาพื้นที่หรือชุมชน รวมตลอดทั้งช่วยเหลือหรือเยียวยาประชาชนและชุมชน บรรดาที่อาจได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 2) สนับสนุนและส่งเสริมการศึกษาและให้ทุนการศึกษาแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือที่อยู่ใกล้เคียง และได้รับผลกระทบจากการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 3) ค่าใช้จ่ายอื่นที่จะส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ตามที่คณะกรรมการนโยบายกําหนด 4) ค่าใช้จ่ายในการบริหารกองทุน จะใช้จ่ายเงินกองทุนตาม 1 และ 2 โดยต้องคำนึงถึงความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นด้วย

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ EEC กล่าวว่า ขณะนี้รัฐได้อนุมัติเงินกองทุนเข้ามาแล้ว 100 ล้านบาท และเตรียมอนุมัติเพิ่มให้อีก 900 ล้านบาท ต้นปีหน้าหลังนำร่างระเบียบกองทุน เข้าที่ประชุมบอร์ดใหญ่ EEC ในวันที่ 23 ม.ค. 2562 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานนั้นก็สามารถตั้งกองทุนได้เรียบร้อย นอกจากเงินจากรัฐแล้วกองทุนจะเก็บจากรายได้อื่น ๆ เช่น รายได้จากการทำนิคมอุตสาหกรรม ค่าบริการจาก one stop service โดยอัตราการเก็บจะดูจากพื้นที่ และสิทธิประโยชน์ที่นักลงทุนได้ หรือรายใดได้มากก็จ่ายมาก เป็นต้น

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
.
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!