ค้าต่างประเทศ เผยยอดใช้สิทธิ FTA-GSP 10เดือนปี2561 มูลค่า 6.2 หมื่นล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 8.98% โดยการใช้สิทธิอาเซียนสูงสุด

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) โดยในช่วง 10 เดือนของปี 2561 (ม.ค.-ต.ค.) มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์รวมอยู่ที่ 62,418.19 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.98% โดยมีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์อยู่ที่ 75.02% ของสินค้าที่ได้รับสิทธิทั้งหมด และแยกเป็นมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA มูลค่า 58,391.46 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.82% คิดเป็นสัดส่วน 76.40% ของมูลค่าส่งออกที่ได้สิทธิภายใต้ FTA และมูลค่าการส่งออกภายใต้ GSP มูลค่า 4,026.73 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11.36% คิดเป็นสัดส่วน 59.38% ของมูลค่าที่ได้รับสิทธิ GSP

โดยในด้านการใช้สิทธิ FTA พบว่า ตลาดส่งออกที่ไทยมีการใช้สิทธิประโยชน์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน มูลค่า 22,409.14 ล้านเหรียญสหรัฐ จีน มูลค่า 14,708.27 ล้านเหรียญสหรัฐ ออสเตรเลีย มูลค่า 7,837.44 ล้านเหรียญสหรัฐ ญี่ปุ่น มูลค่า 6,338.03 ล้านเหรียญสหรัฐ และอินเดีย มูลค่า 3,719.71 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนกรอบความตกลงที่สัดส่วนการใช้สิทธิสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ไทย-ชิลี สัดส่วน 103.77% ไทย-ญี่ปุ่น สัดส่วน 92.04% ไทย-เปรู สัดส่วน 90.54% ไทย-ออสเตรเลีย สัดส่วน 90.47% และอาเซียน-จีน สัดส่วน 89.78% และสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์บรรทุก ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ ทุเรียน น้ำตาลจากอ้อย และน้ำมันปิโตรเลียม

ทั้งนี้ ในปี 2562 ความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ฮ่องกง (AHKFTA) จะมีผลบังคับใช้ ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในการส่งออกให้กับสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดจีนและตลาดอื่นๆ โดยใช้ฮ่องกงเป็นประตูการค้า ซึ่งผู้ส่งออกที่ต้องการจะส่งออก ก็ต้องเตรียมความพร้อมในการขอใช้สิทธิประโยชน์ไว้ล่วงหน้า

นายอดุลย์ กล่าวว่า สำหรับการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ GSP ปัจจุบันมี 5 ประเทศที่ให้สิทธิกับไทย คือ สหรัฐฯ สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช นอร์เวย์ และญี่ปุ่น โดยผลการใช้สิทธิในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ ยังคงเป็นอันดับหนึ่ง มีมูลค่าใช้สิทธิ 3,606.77 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3.86% คิดเป็นสัดส่วน 68.72% ของมูลค่าที่ได้สิทธิทั้งหมด รองลงมา คือ สวิตเซอร์แลนด์ มูลค่า 258.42 ล้านเหรียญสหรัฐ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช 137.99 ล้านเหรียญสหรัฐ นอร์เวย์ 16.76 ล้านเหรียญสหรัฐ และญี่ปุ่น 6.79 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ GSP สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ เครื่องดื่มอื่นๆ ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่ง และรถจักรยานยนต์

“กรมฯ มั่นใจว่าในช่วง 2 เดือนที่เหลือ มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจะขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 70,794 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9% เพราะในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา มีการใช้สิทธิไปแล้ว 62,418.19 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 88.2% ของเป้าหมายมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ ซึ่งมั่นใจว่าทำได้แน่

เพราะกรมฯ มองว่า แม้จะมีความท้าทายและความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน สงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน แต่เชื่อว่าการส่งออกของไทยไปประเทศที่ได้รับสิทธิทั้ง FTA และ GSP จะยังส่งออกได้ตามปกติ ประกอบกับกรมฯ ได้มีการพัฒนาระบบการให้บริการเพื่อขอใช้สิทธิประโยชน์ให้สะดวก รวดเร็ว ก็ยิ่งทำให้มีการเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้น”

 

 

 

ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
.
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!