นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในงาน Economic Challenges 2019 ว่า ปี 2562 ประเทศไทย 5 อุตสาหกรรมที่จะเป็นดาวรุ่งสำคัญ คือ อุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่ (New S-Curve) ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย 1.อุตสาหกรรมเชื่อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ ที่ขณะนี้มีนักลงทุนที่เตรียมยื่นขอส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) 2,000-3,000 ล้านบาท นับเป็นมูลค่าการลงทุนจริงที่จะเห็นในปีนี้ และหาก พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย ผ่านซึ่งจะกำหนดให้น้ำอ้อยสามารถพัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่นได้ เช่น ยา เครื่องสำอาง
อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ที่แม้จะยังไม่ใช่การประกอบเครื่องบิน แต่จะเริ่มด้วยการเป็นศูนย์ซ่อมอากาศยานในพื้นที่สนามบินอู่ตะเภา
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
อุตสาหกรรมหุ่นยนต์จะเป็นตัวปรับเปลี่ยนระบบบการทำงานเดิมมาสู่อัตโนมัติ
อุตสาหกรรมดิจิทัลที่จะนำเครือข่าย 5G เข้ามาและจะถูกนำเข้ามาพัฒนารายเล็กอย่าง SMEs ด้วยแพลตฟอร์มและการค้าขายออนไลน์
อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรที่ไทยจะเป็นฮับทั้งการทดสอบเครื่องมือแพทย์ และการผลิต
ขณะที่อุตสาหกรรมเดิมยานยนต์จะถูกพัฒนาไปสู่ยานยนต์สมัยใหม่และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) นั้นได้มีการลงทุนด้านแบตเตอรี่รถยนต์ EV และโรงงานผลิตชิ้นส่วนใหม่ๆ ที่สูงถึง 30,000 ล้านบาทแล้ว
“อุตสาหกรรมไทยอยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนเพื่อไปสู่เทคโนโลยีใหม่ ดังนั้นแนวทางการทำธุรกิจนั้นจะต้องมี 2 ส่วนสำคัญ คือ สร้างภูมิคุ้มกันจากภายใน และสร้างความสามารถใหม่เพื่อมีจุดยืนบนเวทีโลกแบบยั่งยืน และเชื่อว่าปีนี้ S-Curve จะทำให้ภาพรวมการลงทุนปีที่แล้วเป็นไปตามเป้าที่รัฐบาลตั้งไว้ และจะเห็นการลงทุนจริงปีนี้แน่นอน”
ทั้งนี้ แม้ว่าการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. จะเลื่อนออกไป ซึ่งในระยะสั้นยังต้องรอดูว่าจะกระทบอย่างไรบ้าง แต่ในระยะยาวไม่มีผลกระทบแน่นอน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่จะมองและวางแผนระยะยาวไว้แล้ว
ไม่พลาดข่าวสารเศรษฐกิจ เจาะลึกทุกประเด็นทั้งภาครัฐ-เอกชน เพิ่มเราเป็นเพื่อนที่ Line ได้เลย พิมพ์ @prachachat หรือ คลิกลิงก์ https://line.me/R/ti/p/@prachachat
หรือจะสแกน QR Code ในรูป เราพร้อมเสิร์ฟข่าวเศรษฐกิจ-ธุรกิจถึงมือผู้อ่านทันที!